คุณค่าทางอาหารของผักหวานป่า
ลักษณะโดยทั่วไปของผักหวานป่า
ผักหวานป่า
ผักหวานป่าจัดเป็นพืชในวงศ์ Opiliaceae ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Melientha suavis Pierre เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เมื่อโตเต็มที่อาจสูงถึง 12 หรือ 13 เมตร ใบอ่อนรูปร่างแคบรี ปลายใบแหลม สีเขียวอมเหลืองใบแก่เต็มที่รูปร่างรีกว้างถึงรูปไข่หรือรูปไข่กลับใบสีเขียวเข้ม เนื้อใบกรอบ ขอบใบเรียบ ปลายใบมน ขนาดของใบ ประมาณ 2.5-5 ซม. X 6-12 ซม. ก้านใบสั้น ช่อดอกแตกกิ่งก้านคล้ายช่อดอกลำไย หรือมะม่วง และเกิดตามกิ่งแก่หรือตามลำต้นที่ใบร่วงแล้ว ดอกมีขนาดเล็กเป็นตุ่มสีเขียว ลักษณะผลเป็นผลเดี่ยว ติดกันเป็นพวง เหมือนช่อผลของมะไฟหรือลางสาดแต่ละผลมีขนาดประมาณ 1.5 x 2.5 ซม.ผลอ่อนสีเขียวมีนวลเคลือบและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองถึงเหลืองอมส้ม เมื่อผลสุกแต่ละผลมีเมล็ดเดียว
ผักหวานป่าอายุ 4 เดือน |
ผักหวานป่า
ผักหวานป่า
จัดเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงชนิดหนึ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักหวานป่ายังเป็นแหล่งโปรตีน
วิตามินซีและพลังงานที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก
นอกจากนี้ยังมีปริมาณเยื่อใยมากพอสมควร ช่วยในการเสริมระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น
ตามที่ผมได้ศึกษาอิงจากตำราวิชาการมา ขอบรรยายให้ฟังพอสังเขปดังนี้ครับ
ในยอดและใบสดหากเรารับประทานได้ 100 กรัม (1 ขีด)
จะมีสารอาหารที่ประกอบด้วย นํ้า 76.6 กรัม โปรตีน 8.2 กรัม คาร์โบไฮเดท 10 กรัม เยื่อใย 3.4 กรัม เถ้า 1.8 กรัม แคโรทีน 1.6มก. แถมยังมีวิตามินซี 115 มก. และให้ค่าพลังงานสูงถึง 300 กิโลจูล (KJ) แต่อย่างไรก็ตาม
ขอแนะนำไว้ก่อนเลยนะครับ การบริโภคผักหวานป่าควรปรุงให้สุกเสียก่อน
เหตุผลก็เพราะว่า หากเราบริโภคผักหวานป่าแบบสดๆ ในปริมาณมากอาจทำ
ให้เกิดอาการเบื่อเมา อาจเป็นไข้หรือทำให้อาเจียนได้
การนำผักหวานป่ามาปรุงอาหารนั้นใช้ได้ทั้งส่วนที่เป็นยอดและใบอ่อนครับ
หรือจะเอาช่อผลอ่อนๆก็อร่อยไม่แพ้กัน สำหรับผลแก่ให้เราลอกเนื้อหรือเปลือกทิ้ง
แล้วนำเมล็ดไปต้มรับประทานได้ เช่นเดียวกับเมล็ดขนุนความอร่อยก็ไม่แพ้กัน
อาหารที่ปรุงจากผักหวานป่า นอกจากจะนำไปต้ม หรือลวก เป็นผักจิ้มกะนํ้าพริกแล้ว
ยังนำไปทำแกงได้สารพัด เช่น แกงเลียง ต้มยำใส่เห็ดฟาง หรือต้มจืดก็ได้
สำหรับรสชาติความอร่อย รับรองด้วยฝีมือตัวเองนะครับ
ง