ผักหวานป่า
วิธีปลูกผักหวานป่าให้รอดตายและโตไว
จากประสปการณ์การทดลอง การลองผิดลองถูกมาสองฤดูกาลของการปลูก
“ผักหวานป่า” โดยใช้เวลาเกือบๆสามปี ผมได้ศึกษาหาความรู้ทั้งจากตำราของนักวิชาการ
ทั้งทางอินเตอร์เน็ต แล้วนำมาผสมผสานทดลองปลูกผักหวานป่าด้วยตัวเอง ปีแรกผมได้ปลูกผักหวานป่าจำนวน
150 ต้นไว้รอบบ้าน เหลือรอดให้เห็นอยู่เพียงห้าต้น แถมมีโตให้เห็นอยู่เพียงสองต้นเท่านั้น
จึงได้วิเคราะห์หาสาเหตุว่า..ทำไม?..เพราะอะไร? ผักหานป่าที่เรานำมาปลูกไว้ที่บ้าน
ถึงไม่เจริญเติบโตเหมือนอยู่ในป่า และก็ได้ข้อสรุปคร่าวๆว่า
โดยธรรมชาติทั่วไปของผักหวานป่านั้นเป็นพืชที่ไม่ต้องการแสงแดดมากนัก คือต้องการแสงแดดเพียง
50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และเป็นพืชที่มีรากฝอยที่อ่อนแอมาก หากโดนกระทบกระเทือนเพียงน้อยนิดก็จะตายหรือจะชะงักการเจริญเติบโตในทันที
และที่สำคัญสถานที่ปลูกต้องไม่มีน้ำขัง เพราะจำทำให้รากเน่าตายก่อนที่จะเจริญเติบโตให้เราได้เก็บกินหรือขาย
ตอนผมเริ่มปลูกผักหวานป่าปีแรก ผมได้ทดลองปลูกจำนวน 150 ต้น โดยการทำสะแลนบังแสงแดดให้จำนวน
50 ต้น ปลูกใต้ต้นพริกอีก 50 ต้น ที่เหลือก็ปลูกไว้ใต้ต้นมะเขือ ใต้ต้นมะละกอ
ใต้ต้นกล้วย และมีอยู่ไม่กี่ต้นที่ปลูกไว้กับต้นแคบ้าน ก็อย่างที่บอกตั้งแต่แรกๆ พอเวลาผ่านไปหนึ่งฤดูกาล
ผักหวานป่าที่ปลูกไว้มีรอดเพียง 5 ต้นเท่านั้น และที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีก็คือ
ผมสังเกตเห็นว่าผักหวานป่าต้นที่รอดตายนั้น มีอยู่สองต้นที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วมาก
ใช้เวลาเพียง 9 เดือนเท่านั้น กลับมีลำต้นสูงเลยหัวเข่า
แถมยังแตกกิ่งก้านสาขาสวยงาม มีใบเขียวขจี
ทั้งๆที่ไม่ได้รดน้ำหรือใส่ปุ๋ยแต่อย่างใด ก็เลยศึกษาหาข้อมูลต่ออีกว่า..ทำไม?..เพราะอะไร?..ผักหวานป่าที่ปลูกไว้ใต้ต้นแคถึงโตไว
และจากการที่ได้ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลจากเอกสารหลายๆเล่มของกรมพัฒนาที่ดิน ก็ได้อีกหนึ่งข้อสรุปและก็ถึงบางอ้อ!..อีกนั่นแหละครับ
ปมรากของพืชตระกูลถั่ว |