การทำข้าวเม่า
เกษตร
การทำข้าวเม่า (ของแซ่บคนอีสาน)
ใหนๆก็พูดถึงแต่เรื่องข้าวมาหลายวันแล้ว วันนี้ขอคุยเรื่องการทำข้าวเม่าซะหน่อยคงไม่ว่ากันนะครับ สำหรับคนอีสานแล้วเมื่อพูดถึงข้าวเม่าก็ต้องร้อง..อ๋อ..แม่นแล้ว..กันเลยทีเดียว ผมเป็นอีกคนหนึ่งครับที่ชอบรับประทานข้าวเม่า พูดง่ายๆ ก็คือชอบกิน ติดใจในความหอม รสชาติที่นุ่มนวลของข้าวเม่านั่นเอง แต่ไม่รู้เขาทำกันอย่างไร พอดีไปเจอข้อมูลดีๆ ก็เลยเก็บเอามาจดบันทึกไว้ทำเองซะเลย แถมแบ่งปันความรู้ให้เพื่อนได้ไปลองทำอีกด้วยครับ
ข้าวเม่า
เป็นขนมไทยที่นิยมกินกันมาตั้งแต่โบราณ ในอดีตตอนหน้าน้ำจะมีแม่ค้านำขนมใส่เรือมาขาย ซึ่งจะมีข้าวเม่าทอดอยู่ด้วย ได้มีการประยุกต์ข้าวเม่าได้หลายแบบ เช่น ข้าวเม่าบดโดย ใช้ข้าวเม่าใหม่คั่วให้หอมแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง หยดหัวกะทิลงบนข้าวเม่าที่ กรองไว้ กะทิจะผสมข้าวเม่าเป็นก้อน หรือ ข้าวเม่าราง คือข้าวเม่าที่นำมาคั่วจนพองแล้วกินกับน้ำกะทิ ภายหลังมีผู้คิดทำข้าวเม่ารางแบบแห้ง คือใส่กุ้งแห้ง เต้าหู้ทอด หรือใส่น้ำตาลทรายถ้าเป็นแบบหวาน หรือข้าวเม่าทอดเป็นข้าวเม่ากวนกับน้ำตาลผสมกับแป้งพอก กล้วยไข่ทั้งลูกแล้วทอด บางท้องถิ่นเรียก กล้วยข้าวเม่า
ข้าวเม่า สามารถทำได้จากทั้งเมล็ดข้าวเหนียว และเมล็ดข้าวเจ้า แต่ส่วนใหญ่มักจะทำจากเมล็ดข้าวเหนียวมากกว่าเนื่องจากข้าวเจ้านั้นแข็ง ทำให้ตำยาก เมล็ดข้าวจะไม่สวย
การทำ ข้าวเม่า
เลือกรวงข้าวที่แก่จัด มาทำ โดยสังเกตได้จากรวงข้าวเริ่มโค้ง หรือจากการแกะเมล็ดข้าวทดสอบ นำรวงข้าวมานวดเอาเมล็ดออกจากรวงข้าว นอกจากวิธีการนวดยังสามารถนำไม้ไผ่มาขูดเมล็ดข้าวออกจากรวงได้อีกวิธีหนึ่งด้วย
ฝัดเมล็ดข้าวเพื่อคัดเอาเมล็ดที่ลีบออกให้หมด นำเมล็ดข้าวที่สมบูรณ์ใส่ภาชนะเตรียมไว้
นำเมล็ดข้าวไปคั่ว โดยใช้ไฟความร้อนสูง ใช้ไม้ไผ่คนเมล็ดข้าวตลอดเวลา เพื่อให้ได้รับความร้อนอย่างทั่วถึง ใช้เวลาในการคั่ว 15-20 นาที หรือ สังเกตจากการที่เมล็ดข้าวเริ่มแตก
นำเมล็ดข้าวที่คั่วแล้ว มาใส่ครก เพื่อทำการตำ เอาเปลือกข้าวออก จะได้เมล็ดข้าวลักษณะแบนๆ ใช้เวลาตำประมาณ 15 นาที หรือจนกว่าเปลือกจะออกจากเมล็ด
นำเมล็ดข้าวที่ตำแล้ว มาใส่กระด้งทำการฝัดเพื่อแยกเอาเปลือกออก จะได้ “ ข้าวเม่า” ที่พร้อมรับประทาน ถ้าทำสุกใหม่ ๆ ข้าวเม่าจะนิ่ม และหอมมาก เราสามารถนำ ข้าวเม่ามารับประทานได้เลย หรือนำไปคลุกเคล้ากับมะพร้าวและน้ำตาลทราย
ที่มา:http://www.thairice.org/html/faq.htm
การทำข้าวเม่า (ของแซ่บคนอีสาน)
ใหนๆก็พูดถึงแต่เรื่องข้าวมาหลายวันแล้ว วันนี้ขอคุยเรื่องการทำข้าวเม่าซะหน่อยคงไม่ว่ากันนะครับ สำหรับคนอีสานแล้วเมื่อพูดถึงข้าวเม่าก็ต้องร้อง..อ๋อ..แม่นแล้ว..กันเลยทีเดียว ผมเป็นอีกคนหนึ่งครับที่ชอบรับประทานข้าวเม่า พูดง่ายๆ ก็คือชอบกิน ติดใจในความหอม รสชาติที่นุ่มนวลของข้าวเม่านั่นเอง แต่ไม่รู้เขาทำกันอย่างไร พอดีไปเจอข้อมูลดีๆ ก็เลยเก็บเอามาจดบันทึกไว้ทำเองซะเลย แถมแบ่งปันความรู้ให้เพื่อนได้ไปลองทำอีกด้วยครับ
ข้าวเม่า |
เป็นขนมไทยที่นิยมกินกันมาตั้งแต่โบราณ ในอดีตตอนหน้าน้ำจะมีแม่ค้านำขนมใส่เรือมาขาย ซึ่งจะมีข้าวเม่าทอดอยู่ด้วย ได้มีการประยุกต์ข้าวเม่าได้หลายแบบ เช่น ข้าวเม่าบดโดย ใช้ข้าวเม่าใหม่คั่วให้หอมแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง หยดหัวกะทิลงบนข้าวเม่าที่ กรองไว้ กะทิจะผสมข้าวเม่าเป็นก้อน หรือ ข้าวเม่าราง คือข้าวเม่าที่นำมาคั่วจนพองแล้วกินกับน้ำกะทิ ภายหลังมีผู้คิดทำข้าวเม่ารางแบบแห้ง คือใส่กุ้งแห้ง เต้าหู้ทอด หรือใส่น้ำตาลทรายถ้าเป็นแบบหวาน หรือข้าวเม่าทอดเป็นข้าวเม่ากวนกับน้ำตาลผสมกับแป้งพอก กล้วยไข่ทั้งลูกแล้วทอด บางท้องถิ่นเรียก กล้วยข้าวเม่า
ข้าวเม่า สามารถทำได้จากทั้งเมล็ดข้าวเหนียว และเมล็ดข้าวเจ้า แต่ส่วนใหญ่มักจะทำจากเมล็ดข้าวเหนียวมากกว่าเนื่องจากข้าวเจ้านั้นแข็ง ทำให้ตำยาก เมล็ดข้าวจะไม่สวย
การทำ ข้าวเม่า
เลือกรวงข้าวที่แก่จัด มาทำ โดยสังเกตได้จากรวงข้าวเริ่มโค้ง หรือจากการแกะเมล็ดข้าวทดสอบ นำรวงข้าวมานวดเอาเมล็ดออกจากรวงข้าว นอกจากวิธีการนวดยังสามารถนำไม้ไผ่มาขูดเมล็ดข้าวออกจากรวงได้อีกวิธีหนึ่งด้วย
ฝัดเมล็ดข้าวเพื่อคัดเอาเมล็ดที่ลีบออกให้หมด นำเมล็ดข้าวที่สมบูรณ์ใส่ภาชนะเตรียมไว้
นำเมล็ดข้าวไปคั่ว โดยใช้ไฟความร้อนสูง ใช้ไม้ไผ่คนเมล็ดข้าวตลอดเวลา เพื่อให้ได้รับความร้อนอย่างทั่วถึง ใช้เวลาในการคั่ว 15-20 นาที หรือ สังเกตจากการที่เมล็ดข้าวเริ่มแตก
นำเมล็ดข้าวที่คั่วแล้ว มาใส่ครก เพื่อทำการตำ เอาเปลือกข้าวออก จะได้เมล็ดข้าวลักษณะแบนๆ ใช้เวลาตำประมาณ 15 นาที หรือจนกว่าเปลือกจะออกจากเมล็ด
นำเมล็ดข้าวที่ตำแล้ว มาใส่กระด้งทำการฝัดเพื่อแยกเอาเปลือกออก จะได้ “ ข้าวเม่า” ที่พร้อมรับประทาน ถ้าทำสุกใหม่ ๆ ข้าวเม่าจะนิ่ม และหอมมาก เราสามารถนำ ข้าวเม่ามารับประทานได้เลย หรือนำไปคลุกเคล้ากับมะพร้าวและน้ำตาลทราย
ที่มา:http://www.thairice.org/html/faq.htm
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น