9 สายพันธุ์ข้าวเจ้าสำหรับปลูกเพื่อการค้า

เกษตร
พันธุ์ข้าวเจ้าส่งเสริมที่นิยมปลูกเพื่อการค้าในปัจจุบัน


เกษตร

1. พันธุ์ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง  (ชัยนาท 1) 
เป็นข้าวเจ้าที่ไม่ไวต่อช่วงแสง มีอายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 110 วัน
 
ลักษณะเฉพาะ 
-มีเมล็ดยาว คุณภาพดี 

จุดอ่อนของสายพันธุ์
เป็นพันธุ์ที่ไม่ต้านทานโรคขอบใบแห้ง และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล อีกทั้งยังไม่ทนต่ออากาศหนาวเย็นในช่วงข้าวตั้งท้อง และออกดอก

2. พันธุ์ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง (สุพรรณบุรี 1) 
เป็นข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง มีอายุการเกี่ยวเกี่ยวประมาณ 115 วัน
 
ลักษณะเฉพาะ
- ให้ผลผลิตสูง ค่อนข้างต้านทานโรค และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
- ทนต่ออากาศหนาวเย็นในภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง

จุดอ่อนของสายพันธุ์
ไม่ต้านทานโรคขอบใบแห้ง โรคไหม้ และใบจุดสีน้ำตาลในภาคเหนือตอนล่างล้มง่าย
 
3. พันธุ์ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง (สุพรรณบุรี 3)
เป็นพันธุ์ข้าวเจ้าที่ไม่ไวต่อช่วงแสง มีอายุการเก็บเกี่ยว 110 วัน

ลักษณะเฉพาะ
- ให้ผลผลิตสูง
- ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลได้เป็นอย่างดี
- ทนต่ออากาศหนาวเย็นในภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง

จุดอ่อนของสายพันธุ์
-ไม่ต้านทานโรคใบจุดสีน้ำตาล และโรคเมล็ดด่าง
-ระยะแตกกอสูงสุด ข้าวมักแสดงอาการใบเหลือง แนะนำให้เกษตรกรใส่ปุ๋ยแต่งหน้าเพื่อลดอาการ

4. พันธุ์ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง (พิษณุโลก 2)
เป็นพันธุ์ข้าวเจ้าที่ไม่ไวต่อช่วงแสง มีอายุการเก็บเกี่ยว 105 -110 วัน
 
ลักษณะเฉพาะ
-ให้ผลผลิตสูง มีเมล็ดยาว คุณภาพดี
-ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลได้เป็นอย่างดี
-ต้นแข็งไม่ล้ม หรือหักง่าย

จุดอ่อนของสายพันธุ์
-ไม่ต้านทานโรคขอบใบแห้ง โรคเมล็ดด่าง และโรคดอกกระถิน
-ไม่ทนต่ออากาศหนาวเย็นในช่วงข้าวตั้งท้อง และออกดอก
 
5. พันธุ์ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง (ปทุมธานี 1) 
เป็นพันธุ์ข้าวเจ้าที่ไม่ไวต่อช่วงแสง มีอายุการเก็บเกี่ยว 110 -115 วัน
 
ลักษณะเฉพาะ
- มีกลิ่นหอม คุณภาพข้าวสุกเหมือนข้าวขาวดอกมะลิ 105
- ต้านทานโรคไหม้และโรคขอบใบแห้ง

จุดอ่อนของสายพันธุ์
-ไม่ทนต่ออากาศหนาวเย็นในช่วงข้าวตั้งท้อง และออกดอก
-ไม่เหมาะที่จะปลูกฤดูนาปรังในเขตภาคเหนือ เพราะจะกระทบอากาศร้อนจัดในช่วงข้าวออกดอก ทำให้คุณภาพการสีต่ำ
 
6. พันธุ์ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง (บางแตน)
เป็นพันธุ์ข้าวเจ้าที่ไม่ไวต่อช่วงแสง มีอายุการเก็บเกี่ยว 95 -105 วัน 

ลักษณะเฉพาะ
- อายุสั้น แต่ให้ผลผลิตสูง

จุดอ่อนของสายพันธุ์
-ไม่ต้านทานโรคไหม้ โรคขอบใบแห้ง และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (ในภาคเหนือตอนล่าง)
-ไม่ทนต่ออากาศหนาวเย็นในช่วงข้าวตั้งท้อง และออกดอก
 
7. พันธุ์ข้าวไวต่อช่วงแสง (ขาวดอกมะลิ 105) 
เป็นข้าวเจ้าที่ไวต่อช่วงแสง มีอายุการเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 20 – 25 พ.ย.
 
ลักษณะเฉพาะ
- มีกลิ่นหอม รสชาติอร่อย ทนแล้ง ทนดินเค็มและดินเปรี้ยวได้เป็นอย่างดี
 
จุดอ่อนของสายพันธุ์
-ไม่ต้านทานโรคไหม้ โรคขอบใบแห้ง และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
 
8. พันธุ์ข้าวไวต่อช่วงแสง (กข15)
 เป็นพันธุ์ข้าวเจ้าที่ไวต่อช่วงแสง มีอายุการเก็บเกี่ยวประมาณวันที่ 10 พฤศจิกายน 

ลักษณะเฉพาะ
- มีกลิ่นหอม อายุสั้น ทนสภาพอากาศที่แห้งแล้งได้พอสมควร

จุดอ่อนของสายพันธุ์
-ไม่ต้านทานโรคไหม้ โรคขอบใบแห้ง ไม่ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และบั่ว
 
9. พันธุ์ข้าวไวต่อช่วงแสง (พิษณุโลก 3)
เป็นพันธุ์ข้าวเจ้าที่ไวต่อช่วงแสง มีอายุการเก็บเกี่ยวประมาณวันที่ 5-10 ธันวาคม 

ลักษณะเฉพาะ
- ให้ผลผลิตสูง คุณภาพการสีค่อนข้างดี
- ต้นแข็ง ไม่ล้มง่าย
- ข้าวสุกนุ่ม มีรสชาติอร่อย
 
จุดอ่อนของสายพันธุ์
-ไม่ต้านทานโรคไหม้ โรคขอบใบแห้ง และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล

พันธุ์ข้าวที่ไวต่อช่วงแสง
เป็นพันธุ์ข้าวที่ออกดอกเฉพาะเมื่อช่วงเวลากลางวัน สั้นกว่า 12 ชั่วโมง พบว่าในประเทศไทย ข้าวที่ไวต่อช่วงแสง มักจะออกดอกในเดือนที่มีความยาว ของกลางวันประมาณ 11 ชั่วโมง 40 นาที หรือสั้นกว่านี้ เพราะฉนั้นแล้ว ข้าวที่ออกดอกได้ในเดือนที่มีความยาวของกลางวัน 11 ชั่วโมง 40-50 นาที จึงได้ชื่อว่าเป็นข้าวที่มีความไวต่อช่วงแสงน้อย และพันธุ์ที่ออกดอกเฉพาะในเดือนที่มีความยาวของกลางวันประมาณ 11 ชั่วโมง 10-20 นาทีก็ได้ชื่อว่าเป็นพันธุ์ที่มีความไวต่อช่วงแสงมาก  ดังนั้นพันธุ์ข้าวประเภทนี้จึงปลูกและให้ผลผลิตได้ปีละหนึ่งครั้ง หรือปลูกได้เฉพาะในฤดูนาปีเท่านั้น บางครั้งเราจึงเรียกว่าข้าวนาปี สำหรับพันธุ์ข้าวในประเทศไทย ที่เป็นพันธุ์พื้นเมืองส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ที่มีความไวต่อช่วงแสง
 
พันธุ์ข้าวที่ไม่ไวต่อช่วงแสง
เป็นพันธุ์ข้าวที่ออกดอกเมื่อข้าวมีระยะเวลาการเจริญเติบโต และให้ผลผลิตตามอายุ จึงใช้ปลูกและให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี หรือปลูกได้ในฤดูนาปรัง บางครั้งเราจึงเรียกว่า ข้าวนาปรัง







ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปูนขาว/ปูนมาร์ล ทำหน้าที่อะไร?

เลือกฤดูกาลปลูกฟักทองให้ขายได้ราคาแพง

9 อุปกรณ์สำหรับวางระบบน้ำด้วยท่อ Pe ที่คนทำเกษตรควรรู้ไว้