รอบรู้เรื่องข้าวเพิ่มผลผลิต 100 ถัง/ไร่
เกษตร
เทคนิคเกษตร : รอบรู้เรื่องข้าวเพิ่มผลผลิต 100 ถัง/ไร่
ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นประเทศเกษตรกรรมครับ ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากภาคการเกษตร การทำนาหรือการปลูกข้าวก็ถือได้ว่าเป็นอาชีพหลักของเกษตรกร บ้างก็ปลูกไว้กินเองในครอบครัว หรือไม่ก็เอาไว้ขาย แต่เราจะทำอย่างไรให้ได้ผลผลิตคุ้มกับทุน คุ้มกับค่าแรงที่ลงไปล่ะครับ
วันนี้ขออนุญาตนำเสนอเทคนิคเกษตรดีๆ ของปราชญ์ชาวบ้านท่านหนึ่ง ซึ่งมีประสปการณ์จริงเกี่ยวกับการทำเกษตรครับ ท่านนี้ก็คือ คุณลุงทองเหมาะ แจ่มแจ้ง ท่านเป็นครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ 4 (สาขาเกษตรกรรม) และยังเป็นเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ (สาขาทำนา) ประจำปี 2549 อีกด้วยครับ
ในการทำนาลุงทองเหมาะ ให้ความรู้ว่า เกษตรกรต้องสังเกตให้ดีว่าข้าวมีใบสีเหลืองจากโรค หรือใบเหลืองเพราะธรรมชาติของข้าวเอง ท่านยังบอกอีกว่า “ชาวนาเดี๋ยวนี้รู้แต่วิธีทำให้ข้าวเขียวอย่างเดียว อย่าใส่ปุ๋ยจนทำให้ข้าวมีใบสีเขียวอยู่ตลอดเวลา”
ซึ่งตามธรรมชาติแล้ว ข้าวจะมีการผลัดใบเป็นระยะโดยมีการเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ใบเหลืองสามครั้ง..สำคัญสำหรับผู้ที่ทำเกษตรฟังดูให้ดีครับ
ข้าวใบเหลืองครั้งแรก
คือตอนที่ข้าวอายุประมาณ 30 วัน ข้าวจะมีใบสีเหลือง เพื่อสลัดใบที่ 1 2 และ 3 ทิ้ง แต่ถ้าหากใบที่ 4 เหลืองด้วยนั่นก็แสดงว่าข้าวเป็นโรคแน่นอนครับ เพราะฉะนั้นแล้วเกษตรกรต้องคอยสังเกตด้วยว่า ข้าวมีกี่ใบ เป็นการเหลืองโดยธรรมชาติ หรือเหลืองเพราะเป็นโรค
ข้าวใบเหลืองครั้งที่ 2 เมื่อ “ข้าวมีอายุ 50 – 60 วัน โบราณว่า ข้าวมีการแต่งตัว” เมื่อนับใบที่ 4 5 และ 6 ได้ในช่วงนี้ใบข้าว จะผลิตอาหารเพื่อสร้างรวงที่จะเกิดมา ทำให้หยุดหาอาหารที่จะเอาไปเลี้ยงใบที่ 1 2 และ 3 นั่นก็หมายความว่า ข้าวใบที่ 1 2 และ 3 ในช่วงนี้จะมีใบเหลือง ซึ่งก็เป็นการเหลืองตามธรรมชาติของข้าวอยู่แล้วครับ
สำหรับการเหลืองครั้งที่ 2
ในทางวิชาการเรียกช่วงดังกล่าวว่า ภาวการณ์สร้างจุดรวง หรือจุด IP ของข้าว (Panicle Initiation) ซึ่งเป็นลักษณะทางกายภาพของข้าวซึ่งกำลังจะเปลี่ยนแปลงลำต้น
ลุงทองเหมาะยังบอกอีกว่า “เกษตรกรที่ไม่เข้าใจธรรมชาติของข้าวข้อนี้ ก็จะเร่งใส่ปุ๋ยในช่วงนี้ ซึ่งจะทำให้ใบที่ 1 2 และ 3 (โดยธรรมชาติต้องเหลือง) กลับมาเขียวซึ่งเรียกว่า ข้าวหลงใบ ส่งผลให้ไม่ได้จำนวนเมล็ดต่อรวงมากเท่าที่ควรจะเป็น” เกษตรกรควรหยุดใส่ปุ๋ยในช่วงนี้ และเมื่อพ้นช่วงนี้ไปแล้วก็ให้เร่งใส่ปุ๋ยบำรุงรวงได้อย่างต่อเนื่อง
ข้าวใบเหลืองครั้งที่ 3
คือระยะพลับพลึง ซึ่งข้าวสุก สามารถเก็บเกี่ยวได้เงินและได้เมล็ดเต็มรวงตามปกติครับ
ขอขอบคุณที่มาจาก: กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เทคนิคเกษตร : รอบรู้เรื่องข้าวเพิ่มผลผลิต 100 ถัง/ไร่
ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นประเทศเกษตรกรรมครับ ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากภาคการเกษตร การทำนาหรือการปลูกข้าวก็ถือได้ว่าเป็นอาชีพหลักของเกษตรกร บ้างก็ปลูกไว้กินเองในครอบครัว หรือไม่ก็เอาไว้ขาย แต่เราจะทำอย่างไรให้ได้ผลผลิตคุ้มกับทุน คุ้มกับค่าแรงที่ลงไปล่ะครับ
วันนี้ขออนุญาตนำเสนอเทคนิคเกษตรดีๆ ของปราชญ์ชาวบ้านท่านหนึ่ง ซึ่งมีประสปการณ์จริงเกี่ยวกับการทำเกษตรครับ ท่านนี้ก็คือ คุณลุงทองเหมาะ แจ่มแจ้ง ท่านเป็นครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ 4 (สาขาเกษตรกรรม) และยังเป็นเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ (สาขาทำนา) ประจำปี 2549 อีกด้วยครับ
ในการทำนาลุงทองเหมาะ ให้ความรู้ว่า เกษตรกรต้องสังเกตให้ดีว่าข้าวมีใบสีเหลืองจากโรค หรือใบเหลืองเพราะธรรมชาติของข้าวเอง ท่านยังบอกอีกว่า “ชาวนาเดี๋ยวนี้รู้แต่วิธีทำให้ข้าวเขียวอย่างเดียว อย่าใส่ปุ๋ยจนทำให้ข้าวมีใบสีเขียวอยู่ตลอดเวลา”
ซึ่งตามธรรมชาติแล้ว ข้าวจะมีการผลัดใบเป็นระยะโดยมีการเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ใบเหลืองสามครั้ง..สำคัญสำหรับผู้ที่ทำเกษตรฟังดูให้ดีครับ
ข้าวใบเหลืองครั้งแรก
คือตอนที่ข้าวอายุประมาณ 30 วัน ข้าวจะมีใบสีเหลือง เพื่อสลัดใบที่ 1 2 และ 3 ทิ้ง แต่ถ้าหากใบที่ 4 เหลืองด้วยนั่นก็แสดงว่าข้าวเป็นโรคแน่นอนครับ เพราะฉะนั้นแล้วเกษตรกรต้องคอยสังเกตด้วยว่า ข้าวมีกี่ใบ เป็นการเหลืองโดยธรรมชาติ หรือเหลืองเพราะเป็นโรค
ข้าวใบเหลืองครั้งที่ 2 เมื่อ “ข้าวมีอายุ 50 – 60 วัน โบราณว่า ข้าวมีการแต่งตัว” เมื่อนับใบที่ 4 5 และ 6 ได้ในช่วงนี้ใบข้าว จะผลิตอาหารเพื่อสร้างรวงที่จะเกิดมา ทำให้หยุดหาอาหารที่จะเอาไปเลี้ยงใบที่ 1 2 และ 3 นั่นก็หมายความว่า ข้าวใบที่ 1 2 และ 3 ในช่วงนี้จะมีใบเหลือง ซึ่งก็เป็นการเหลืองตามธรรมชาติของข้าวอยู่แล้วครับ
สำหรับการเหลืองครั้งที่ 2
ในทางวิชาการเรียกช่วงดังกล่าวว่า ภาวการณ์สร้างจุดรวง หรือจุด IP ของข้าว (Panicle Initiation) ซึ่งเป็นลักษณะทางกายภาพของข้าวซึ่งกำลังจะเปลี่ยนแปลงลำต้น
ลุงทองเหมาะยังบอกอีกว่า “เกษตรกรที่ไม่เข้าใจธรรมชาติของข้าวข้อนี้ ก็จะเร่งใส่ปุ๋ยในช่วงนี้ ซึ่งจะทำให้ใบที่ 1 2 และ 3 (โดยธรรมชาติต้องเหลือง) กลับมาเขียวซึ่งเรียกว่า ข้าวหลงใบ ส่งผลให้ไม่ได้จำนวนเมล็ดต่อรวงมากเท่าที่ควรจะเป็น” เกษตรกรควรหยุดใส่ปุ๋ยในช่วงนี้ และเมื่อพ้นช่วงนี้ไปแล้วก็ให้เร่งใส่ปุ๋ยบำรุงรวงได้อย่างต่อเนื่อง
ข้าวใบเหลืองครั้งที่ 3
คือระยะพลับพลึง ซึ่งข้าวสุก สามารถเก็บเกี่ยวได้เงินและได้เมล็ดเต็มรวงตามปกติครับ
ขอขอบคุณที่มาจาก: กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น