บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2021

5 คำถามเรื่องกล้วย ที่หลายคนยังไม่เคยได้รู้คำตอบ มาฟังเฉลยกันครับ

รูปภาพ
5 คำถามเรื่องกล้วยที่หลายคนยังไม่เคยรู้คำตอบ มีรายละเอียดที่ผมรวบรวมข้อมูลจากประสบการณ์ตรงมาเฉลยให้ฟัง ดังนี้ครับ กล้วย 1. ปลูกกล้วยต้องตัดรากหรือไม่?      การปลูกกล้วยสามารถขุดแยกจากต้นแม่มาปลูกได้เลย โดยที่ต้นแม่ยังไม่ออกปลี แต่ในกรณีที่หน่อกล้วยที่เราแยกออกมาจากกอแม่ที่เป็นโรคตายพราย ควรแช่น้ำขี้เถ้าประมาณ 10 นาทีก่อนปลูก โดยไม่ต้องตัดราก แต่หากแช่นานกว่านี้แนะนำให้ตัดรากทิ้งก่อนนะครับ กล้วย 2. กล้วยชอบพื้นที่แบบไหน?      กล้วยสามารถปลูกได้ทุกสภาพดินไม่ว่าจะเป็นที่เนินสูง ที่น้ำขัง ที่ดินทราย ดินหิน หรือแม้กระทั่งดินลูกรัง แต่ผลผลิตที่ได้อาจไม่เท่ากัน กล้วย 3. กล้วยทนแล้งหรือไม่? ปลูกแล้วรดน้ำบ่อยแค่ไหน?      กล้วยเป็นพืชที่ทนแล้งอย่างมากบางครั้งกล้วยที่เราปลูกไว้พอถึงฤดูแล้งต้นอาจโทรมแต่พอให้น้ำหรือเมื่อถึงฤดูฝนก็จะแทงหน่อจากเหง้าเดิม หรือแม้กระทั่งต้นแม่หักโค่นหน่อกล้วยเล็กๆก็สามารถที่จะแทงออกมาจากเหง้าของต้นแม่เดิมอย่างรวดเร็วหากดินปลูกของเรามีความชื้น แต่ทางที่ดีหากเราไม่มีเวลารดน้ำควรคลุมโคนต้นไว้เพื่อเก็บรักษาความชุ่มชื้น จะได้ไม่เสียเวลารดน้ำบ่อยนะครับ กล้วย 4. ปลูกกล้วยแบบไ

5 ประโยชน์ของไม้พี่เลี้ยงที่หลายคนไม่เคยรู้ ฉบับเข้าใจง่าย

5 ประโยชน์ ของไม้พี่เลี้ยงที่หลายคนไม่เคยรู้            ไม้พี่เลี้ยงก็คือต้นไม้หรือพืชที่เราปลูกให้พืชหลักได้อาศัยเป็นร่มเงาในช่วงปลูกใหม่ ซึ่งไม้ที่นิยมปลูกเป็นไม้พี่เลี้ยงมากที่สุดอันดับแรกๆก็คือต้นกล้วย รองลงมาคือพืชตระกูลถั่วอย่างเช่น ต้นแค หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ประโยชน์หลักๆของไม้พี่เลี้ยง ที่สามารถทำให้พืชอาศัยโตไวในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งผมเองก็ได้รวบรวมข้อมูลจากประสบการณ์ตรงมาเล่าให้ฟัง ประโยชน์หลักๆของไม้พี่เลี้ยงผมสรุปมาให้ 5 อย่างดังนี้ครับ 1. ทำให้พืชอาศัยมีการเจริญเติบโตที่ดี  อย่างเช่นการปลูกกล้วยซึ่งเป็นพืชอวบน้ำไว้ทางฝั่งทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตก เพื่อพรางแสงให้กับพืชที่เราปลูก จะช่วยเป็นร่มเงา ช่วยพรางแสงควบคุมอุณหภูมิ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสังเคราะห์แสงของพืชอาศัย เพราะพืชต้องการแสงพอประมาณ มิใช่แดดจัด มาใช้ในกระบวนการสร้างอาหารหรือที่เรารู้จักในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงนั่นเอง 2. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพฮอร์โมนออกซิน (Auxin)ให้พืชอาศัย ฮอร์โมนออกซินคือหนึ่งในห้าของฮอร์โมนที่พืชสร้างขึ้นเองในสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างกัน ซึ่งฮอร์โมนออกซินจะถูกสร้างขึ้นมามากในสภาวะแสงน้อย มีส่ว

เตรียมหลุมปลูกฉบับเร่งด่วน! อย่างง่ายๆทำให้ดินดี พืชทนแล้ง โตไว ไม่ต้องร...

รูปภาพ
     สวัสดีมิตรสหายที่รักเกษตรทุกท่าน บทความนี้ผมจะมาแชร์วิธีเตรียมหลุมปลูกฉบับเร่งด่วน สำหรับคนที่อยากทำเกษตรแต่มีเวลาค่อนข้างจำกัด หรือมีเวลาน้อยนั่นเองครับ       ในการ  เตรียมหลุมปลูก  ฉบับเร่งด่วน! สามารถทำได้อย่างง่ายๆ เพียงแค่ขุดหลุมให้เป็นรูปตัว V กว้าง x ยาว x ลึก ประมาณ 30 เซนติเมตร หรือมากกว่านี้ก็ได้นะครับ จากนั้นก็ใส่เศษใบไม้แห้ง เศษไม้แห้ง หรือเศษหญ้าแห้งลงไปให้เต็มหลุม เสร็จแล้วก็จุดไฟเพื่อให้เกิดการเผาไหม้ในหลุมปลูกของเรา พอไฟดับและวัสดุเย็นตัวลงก็จะเหลือเพียงเศษขี้เถ้าและเศษถ่านชิ้นเล็กๆ และนั่นก็คือวัสดุรองพื้นหลุมชั้นดี ที่สามารถทำให้ดินร่วนซุย ช่วยอุ้มน้ำ ทำให้พืชที่เราปลูกในหลุมที่เตรียมไว้แบบนี้ทนแล้ง โตไว ไม่ต้องรดน้ำบ่อย แถมยังไม่ค่อยมีแมลงมารบกวนอีกต่างหากครับ.

ขี้เลื่อย ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง? มาฟังเฉลยกันครับ

รูปภาพ
ประโยชน์ 5 อย่างที่ได้จากขี้เลื่อย ขี้เลื่อย คือเศษที่เหลือจากโรงเลื่อยหรือเศษที่เหลือจากงานก่อสร้างโดยเฉพาะงานสร้างบ้านไม้ หรืองานเฟอร์นิเจอร์ไม้ทั่วไป ขี้เลื่อย หลายคนอาจมองว่า "ขี้เลื่อย" เป็นสิ่งไร้ค่าไม่มีประโยชน์ ซึ่งอันที่จริงแล้วขี้เลื่อยถือว่าเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่มีประโยชน์ต่อวงการเกษตรมากเลย หลักๆที่นิยมใช้กันมี 5 อย่างดังนี้ครับ 1. นำมาเป็นวัสดุในการเผาถ่านแทนแกลบดิบหรือดิน ขี้เลื่อยหากผ่านกระบวนการเผาก็จะกลายเป็นขี้เถ้าถ่าน สามารถนำมารองพื้นหลุมปลูกได้ ช่วยอุ้มน้ำ ช่วยเพิ่มออกซิเจนในดิน ช่วยเพิ่มธาตุอาหารในดิน ทำให้ดินร่วนซุย ทำให้พืชทนแล้งและโตไว 2. นำมาเป็นวัสดุรองพื้นหลุมก่อนปลูก เมื่อย่อยสลายก็จะกลายเป็นปุ๋ย ซึ่งจะช่วยเพิ่มอินทรีย์วัตถุให้กับดิน ช่วยอุ้มน้ำ ทำให้พืชทนแล้ง และโตไว 3. นำมาทำเป็นปุ๋ยหมัก โดยนำขี้เลื่อยมาหมักรวมกันกับมูลสัตว์ เศษหญ้าแห้ง ฟางแห้ง หรือเปลือกถั่ว ก็จะได้ปุ๋ยอินทรีย์สำหรับบำรุงต้นไม้ ให้โตไว แข็งแรง ทนต่อโรค 4 . นำมาโรยรอบโคนต้นไม้เพื่อเก็บรักษาความชุ่มชื้น หากนำขี้เลื่อยมาโรยรอบโคนต้นไม้ ก็จะช่วยเก็บความชุ่มชื้นรอบโคนต้น เมื

เตรียมหลุมปลูกแบบนี้ บอกได้เลยว่า..พืชทนแล้ง! โตไว! ไม่ต้องรดน้ำบ่อย!

รูปภาพ
     สวัสดีมิตรสหายที่รักเกษตรทุกท่าน บทความนี้ผมจะมาแชร์สูตรรองพื้นหลุมปลูกที่ทำให้พืชโตไว ทนแล้ง แถมยังไม่ต้องเสียเวลารดน้ำบ่อยอีกด้วยนะครับ เรามาเริ่มกันเลย ในการเตรียมหลุมปลูกผมจะขุดลึกประมาณ 30x30x30 เซนติเมตรเหมือนกันหมด แต่ที่แตกต่างก็คือวัสดุที่ใช้ในการรองพื้นหลุมปลูก แต่ละหลุมนั้นจะเป็นคนละอย่างกัน แต่หลักๆแล้วล้วนมีประโยชน์และมีคุณสมบัติที่คล้ายกันคือ ช่วยอุ้มน้ำ เก็บรักษาความชื้นได้ดี ช่วยเพิ่มออกซิเจนและไนโตรเจนในดิน เป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียกลุ่มสร้างสรรค์ ด้วยคุณสมบัติของวัสดุเหล่านี้จึงทำให้พืชที่ปลูกทนแล้ง โตไว แถมยังห่างไกลโรคอีกต่างหาก รายละเอียดมีดังนี้ครับ หลุมที่ 1  จะรองพื้นด้วยแกลบดำหรือขี้เถ้าชีวมวล 1-2 ถ้วย/หลุม แกลบดำ หลุมที่ 2 จะรองพื้นด้วยแกลบดิบ 1-2 ถ้วย/หลุม แกลบดิบ หลุมที่ 3 จะรองพื้นด้วยต้นกล้วยหั่นเป็นชิ้นหนาพอประมาณ 2 ใน 4 ส่วนของหลุม กล้วย หลุมที่ 4 จะรองพื้นด้วยเศษถ่านชิ้นเล็กๆที่เหลือจากเตาเผาถ่านประมาณ 1-2 ถ้วย/หลุม ถ่านบด รับชมรายละเอียดในคลิปด้านล่างนี้ได้เลยครับ

ปลูกกล้วยแบบนี้! ง่าย โตไว! ไม่มีโรคตายพราย

รูปภาพ
ปลูกกล้วยอย่างไร? ให้ห่างไกลโรคกล้วยตายพราย      แชร์วิธีการปลูกกล้วยอย่างง่ายๆ แถมยังปลอดโรคตายพรายอีกต่างหาก เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ผมใช้มาตั้งแต่เริ่มทำเกษตรก็นานหลายปี ขอนำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ      วิธีปลูกกล้วยอย่างง่ายๆ ห่างไกลโรคกล้วยตายพรายที่ผมทำก็คือจะเลือกเหง้ากล้วยที่สมบูรณ์จากกอแม่พันธุ์เดิม จากนั้นก็จะตัดส่วนบนออก (สูงจากพื้นประมาณ 50 เซนติเมตร) เสร็จแล้วผมก็จะขุดเอาเหง้ากล้วยออกมา ในการขุดก็จะระวังไม่ให้เกิดบาดแผลที่เหง้าเพื่อการเจริญเติบโตที่ดี และที่สำคัญก่อนนำเหง้ากล้วยลงปลูกผมจะแช่เหง้ากล้วยด้วยน้ำขี้เถ้า 1 กำมือ ผสมน้ำ 10 ลิตร แช่ไว้ประมาณ 15 นาที ช่วงที่รอก็จะไปเตรียมหลุมปลูก ในการเตรียมหลุมปลูกของผมจะรองพื้นหลุมด้วยขี้เถ้าหรือปูนขาวประมาณ 1 กำมือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นผมก็จะนำเหง้ากล้วยที่แช่ไว้ลงปลูก ดูแลรดน้ำตามปกติ เพียงเท่านี้กล้วยที่เราปลูกก็จะโตไว แถมยังปลอดโรคกล้วยตายพรายอีกต่างหากครับ.

แกลบดิบ! ใช้อย่างไรพืชได้ประโยชน์มากที่สุด? มาฟังเฉลยกันครับ

รูปภาพ
     สวัสดีมิตรสหายที่รักเกษตรทุกท่าน บทความนี้ผมก็มีเรื่องราวๆดีๆมากฝากันอีกเช่นเคยครับ เป็นเรื่องของ "แกลบดิบ" ที่หลายคนที่ทำเกษตรคงรู้จักกันดี  แกลบดิบ        แกลบดิบ จัดว่าเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่ใช้ในทางเกษตรมาช้านาน เป็นของเหลือจากโรงสีข้าว แถมยังมีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช เช่น คาร์บอน และซิลิก้าที่ยังไม่สลายตัว ซึ่งจะปลดปล่อยธาตุซิลิกอน สามารถตรึงไนโตรเจนจากอากาศเอาไว้ในดินปลูกของเราได้ ส่วนใหญ่นิยมนำมารองพื้นหลุม หว่านลงแปลงปลูกผัก หรือนำมาโรยรอบโคนต้นไม้บางๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้น ประโยชน์หลักๆของแกลบดิบก็คือ ช่วยเพิ่มออกซิเจนและไนโตรเจนในดิน ทำให้ดินร่วนซุย ช่วยอุ้มน้ำในดิน ทำให้พืชทนแล้ง โตไว แต่ถึงอย่างไรก่อนใช้ควรผ่านกระบวนการหมักหรือทำให้เป็นแกลบเก่าก่อนนำไปใช้รองพื้นหลุมปลูกนะครับ...รายละเอียดเพิ่มเติมศึกษในคลิปวีดีโอด้านล่างนี้ได้เลยครับ.

ปูนขาวดีอย่างไร? ใช้บ่อยเเค่ไหน? มาฟังเฉลยกัน

รูปภาพ
ปูนขาว เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่นิยมใช้ในทางการเกษตร มีราคาถูก เป็นวัตถุดิบที่ได้จากการเผาหินปูน มีลักษณะเป็นผงสีขาวละเอียดหาซื้อได้ทั่วไป สามารถสั่งซื้อผ่านออนไลน์ก็ได้ ปูนขาว ปูนขาวจะมีคุณสมบัติเป็นด่าง และมีคุณสมบัติหลักๆคือ 1. ช่วยลดความเป็นกรดของดิน 2. ช่วยเพิ่มธาตุอาหารในดิน 3. ช่วยป้องกันโรคพืช ปูนขาว ควรใช้บ่อยแค่ไหน? เป็นอีกหนึ่งข้อสงสัยที่หลายคนอยากรู้ ผมอธิบายให้ฟังแบบคร่าวๆดังนี้ครับ ปูนขาว ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ในกรณีที่ดินปลูกของเรามีความเป็นกรดนะครับ แนะนำให้ใช้ในปริมาณน้อยอาจใช้เดือนละครั้ง ส่วนใหญ่จะใช้หน้าฝน ด้วยการหว่านรอบโคนต้นหรือหว่านลงเเปลงเเล้วไถกลบ แต่หากไม่ใช่หน้าฝนหลังหว่านปูนขาวควรรดน้ำตาม เพื่อให้เกิดการละลายตัว หรือจะนำไปรองพื้นหลุมก่อนปลูกในปริมาณที่พอเหมาะ โดยทั่วไปแล้วผมจะใช้ปูนขาวแค่ครึ่งกำมือรองพื้นหลุมปลูก จากนั้นก็ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันสามารถนำต้นไม้มาปลูกได้เลยครับ หรือจะใช้ปูนขาว 1 ช้อนผสมน้ำ 2 ลิตร คนละลายให้แตกตัว รอให้ตกตะกอน จากนั้นก็เอาเฉพาะน้ำใสที่ผ่านการตกตะกอนเเล้ว นำไปฉีดพ่นพืชผัก ไม้ดอก ไม้ประดับ และไม้ผลต่างๆ ก็สามารถป้องกัน

4 วัสดุรองพื้นหลุมที่หาได้ง่ายๆใกล้ตัว แต่มีประโยชน์สุด! พร้อมประโยชน์ดี...

รูปภาพ
4 วัสดุรองพื้นหลุมที่หาได้ง่ายๆใกล้ตัว     แนะนำวัสดุรองพื้นหลุม 4 อย่างที่ผมใช้ประจำ เป็นของที่หาได้ง่ายๆใกล้ตัวเรา หรือในชุมชนของเรา นำมารองพื้นหลุม ปลูกอะไรก็งาม มีดังนี้ครับ 1. ขี้เถ้าจากเตาถ่าน เตาฟืน หรือขี้เถ้าจากกองไฟ  ขี้เถ้าจากเตาถ่าน "ขี้เถ้า" เป็นเศษที่เหลือจากกองไฟ ในเตาถ่านหรือกองไฟที่เราเผาทั่วไปมีลักษณะเป็นผงสีขาวละเอียด มีคุณสมบัติเป็นด่าง ช่วยลดความเป็นกรดของดิน และยังมีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชหลักๆ เช่น โพแทสเซียม คาร์บอน และซิลิก้า ส่วนใหญ่จะใช้รองพื้นหลุมก่อนปลูกหรือหว่านรอบโคนต้น ทำให้พืชโตไว มีใบเขียว ปลอดโรค และแมลงไม่ค่อยมารบกวน 2. เปลือกไข่บด เปลือกไข่บด "เปลือกไข่บด" หาได้จากครัวเรือนทั่วไป นำมาทุบหรือบดให้ละเอียด ใช้รองพื้นหลุมก่อนปลูก หรือหว่านรอบโคนต้น เปลือกไข่จะมีแคลเซียมสูง ซึ่งมีการศึกษาพบว่าในเปลือกไข่แต่ละฟองที่เหลือจากเรากิน จะมีแคลเซียมมากถึง 39.15 % แถมยังมีไนโตรเจน 0.4 % และยังประกอบด้วยแมกนีเซียมมากถึง 0.38% เหมาะสำหรับบำรุงพืชที่ต้องการให้ติดดอกออกผล 3. แกลบดิบ แกลบดิบ "แกลบดิบ" คือกากที่เหลือจาก

3 ข้อควรรู้! ก่อนขุดสระหรือขุดบ่อเลี้ยงปลา จะได้ไม่เสียพื้นที่โดยเปล่าปร...

รูปภาพ
1. พื้นที่ดินหิน ดินทราย หรือดินลูกรังไม่ควรขุดสระ      หากขุดสระบนพื้นที่ดินหิน ดินทรายหรือดินลูกรัง ส่วนใหญ่จะเป็นสระที่เก็บน้ำไม่อยู่ เพราะเป็นดินที่มีการระบายน้ำได้ดี น้ำซึมผ่านได้ง่าย ดินที่เก็บน้ำได้ดี น้ำซึมผ่านได้ยากก็คือดินเหนียวและดินโป่ง ดินโป่งคือดินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ประกอบด้วยแร่ธาตุต่างๆมากมาย เช่น แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส โซเดียม และสังกะสี เป็นดินที่มีรสเค็มส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอาหารอันโอชะของสัตว์ป่าชนิดต่างๆ หากขุดสระบนพื้นที่แบบนี้มักจะเป็นสระที่อยู่น้ำและเก็บกักน้ำได้ดีครับ 2. พื้นที่บนเนินสูงไม่ควรขุดสระ       ตามธรรมชาติแล้วน้ำจะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำอย่างรวดเร็ว หากเราขุดสระบนพื้นที่เนินสูงส่วนใหญ่แล้วมักจะเก็บน้ำไม่อยู่ แต่ถ้าหากพื้นที่ของเราเป็นดินเหนียวหรือดินโป่ง ก็มักจะเก็บกักน้ำได้ดีไม่แพ้ที่ราบลุ่มครับ 3. อย่าเอาหน้าดินจากสระของเราไปทิ้งที่อื่น      ควรเอาหน้าดินจากสระที่เราขุด แยกหรือเกลี่ยไว้ต่างหาก เพราะมีธาตุอาหารสูงสามารถปลูกพืชผัก ไม้ผล หรือไม้ยืนต้นได้สารพัด ปลูกอะไรก็งามนั่นเองครับ

วัสดุปูนที่ใช้ในทางเกษตร ฆ่าเชื้อได้จริงหรือไม่? ทำให้ต้นไม้โตไว ปลอดโรค...

รูปภาพ
     สวัสดีมิตรสหายที่รักเกษตรทุกท่าน จากข้อสงสัยที่ผมเคยอ่านมาในหลายบทความในโลกออนไลน์และหลายคำถามที่เคยเจอเกี่ยวกับ วัสดุปูนที่ใช้ในทางเกษตร คำถามหลักๆมีอยู่ว่า ปูนที่ใช้ในทางเกษตรสามารถฆ่าเชื้อได้จริงหรือ? และทำให้ต้นไม้โตไวไม่มีโรคแมลงรบกวนจริงหรือไม่? ปูนขาว บทความนี้ผมขออธิบายให้ฟังอย่างคร่าวๆ ดังนี้ครับ อันที่จริงแล้ววัสดุปูนที่ใช้ในทางเกษตร เช่น ปูนมาร์ล ปูนโดโลไมท์ และปูนขาว ล้วนมีคุณสมบัติเป็นด่าง ประโยชน์หลักๆก็คือ ใช้ปรับสภาพความเป็นกรดของดินและน้ำให้มีค่า PH สูงขึ้น เพื่อให้เป็นสภาพที่เหมาะสมสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียกลุ่มสร้างสรรค์ ซึ่งจุลินทรีย์ที่ดีเหล่านี้จะไปทำลายจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียกลุ่มก่อโรคเอง อีกทั้งยังสร้างประโยชน์ให้กับพืช ทำให้พืชปลอดโรค แข็งแรง และโตไว เป็นการฆ่าเชื้อทางอ้อมนั่นเองครับ ค่า PH ที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตของพืชจะอยู่ที่ 5.5-6.5 นะครับ ไม้ผลโตไว รายละเอียดเพิ่มเติมคลิกชมในลิ้งค์ด้านล่างนี้เลย

ใส่ปุ๋ยแบบนี้! ดีหรือไม่?

รูปภาพ
     สวัสดีมิตรสหายที่รักเกษตรทุกท่าน บทความนี้มีเรื่องราวดีๆมาเล่าให้ฟังอีกแล้วครับ เป็นเรื่องของการใส่ปุ๋ยที่หลายคนอาจเข้าใจผิด หลักๆแล้วการใส่ปุ๋ยพืชที่นิยมทำกันมี 2 วิธีครับ วิธีที่ 1.ขุดรอบโคนต้นก่อนใส่ปุ๋ย 2.นำปุ๋ยไปโรยรอบโคนต้นใต้ชายใบ ทั้ง 2 วิธีนี้ มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร ผมสรุปมาให้ ดังนี้ครับ ปุ๋ยเคมี 1. ขุดรอบโคนต้นก่อนใส่ปุ๋ย ข้อดี   - ไม่สูญเสียธาตุอาหารที่มีในปุ๋ยจากการชะล้างของน้ำ ข้อเสีย   -เป็นการทำลายรากฝอยของพืช  - เกิดการละลายตัวของเม็ดปุ๋ยช้า 2.โรยปุ๋ยรอบโคนต้น ข้อดี - เม็ดปุ๋ยละลายตัวได้ดีตามสภาพความชื้นรอบโคนต้น - พืชได้รับธาตุอาหารจากปุ๋ยเต็มที่ ข้อเสีย - อาจเกิดการสูญเสียจากการชะล้างของน้ำ - อาจเกิดการสูญเสียจากสภาพอากาศและแสงแดด      ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวดีๆที่นำมาฝากกันสำหรับคนทำเกษตร ลองนำไปใช้ดูนะครับ. รับชมรายละเอียดได้ตามคลิปนี้เลยครับ

ใส่ปุ๋ยแบบไหน? ช่วงเวลาใด? พืชได้ประโยชน์มากที่สุด

รูปภาพ
สวัสดีมิตรสหายที่รักเกษตรทุกท่านบทความนี้มีเรื่องราวดีๆมาเล่าให้ฟังอีกเเล้วครับ บทความนี้ผมจะมาเเชร์วิธีการใส่ปุ๋ยให้พืชได้ประโยชน์มากที่สุด เราควรใส่ปุ๋ยแบบไหน? ช่วงเวลาใด? ผมสรุปมาให้ 3 ข้อ ดังนี้ครับ 1.ใส่ปุ๋ยตามที่พืชต้องการ 2.ใส่ปุ๋ยให้ถูกที่ 3.ใส่ปุ๋ยให้พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้  ปุ๋ยเคมี อธิบายแยกย่อยแต่ละหัวข้อ ดังนี้ครับ 1.ใส่ปุ๋ยตามที่พืชต้องการ      - ระยะเริ่มปลูกหรือปลูกใหม่ประมาณ 30-45 วัน พืชต้องการธาตุอาหารน้อยเพราะระบบรากยังน้อย ไม่ควรใส่ปุ๋ยในปริมาณที่มากเกินไป ต้องค่อยๆใส่ทีละน้อย ปุ๋ยสูตรที่เหมาะสมในระยะนี้ก็คือสูตร ตัวหน้าสูง ตัวหลังเป็น 0  เช่น 46-0-0 ,  21-0-0 ประมาณนี้นะครับ      - ระยะกำลังเจริญเติบโต (หลังปลูกประมาณ 2 เดือน) และระยะกำลังสร้างดอก พืชต้องการธาตุอาหารมาก ระยะนี้ควรเพิ่มปริมาณธาตุอาหาร สูตรปุ๋ยที่เหมาะสมในระยะนี้คือสูตรตัวหน้าต่ำ ตัวกลาง ตัวหลังสูง เช่น 8-24-24      - ระยะที่เติบโตเต็มที่แล้ว หรือเรียกว่าระยะกำลังสร้างเมล็ด สร้างผล ระยะนี้พืชต้องการธาตุอาหารน้อยและจะลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเมล็ดแก่หรือผลแก่ ควรลดประมาณปุ๋ยลงเรื่อยๆ สูตรปุ๋ยที่เหมา

แชร์วิธีกำจัดตอไม้อย่งง่ายๆ ไม่ต้องใช้สารเคมี ไม่ต้องเผาไฟ

รูปภาพ
แชร์วิธีกำจัดตอไม้อย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้สารเคมีใดๆ และไม่ต้องเผาไฟให้ยุ่งยาก รับรองว่าตายสนิทยันรากไม่งอกขึ้นมาอีกเลยครับ กำจัดตอไม้ วิธีกำจัดตอไม้แบบถาวรทำได้ง่ายๆเพียงเราสับกิ่งเล็กๆที่งอกออกมาจากตาข้างของตอไม้ สับโคนกิ่งออกให้ถึงเนื้อไม้ จากนั้นก็หาวัสดุทึบแสงมาคลุมทับไว้ เพื่อปิดแสง เพียงเท่านี้กิ่งเล็กๆก็ไม่สามารถงอกออกมาจากตอไม้ได้อีกเลยเพราะไม่มีแสงนั่นเองครับ.
รูปภาพ
     สวัสดีมิตรสหายที่รักเกษตรทุกท่านบทความนี้มีเรื่องราวดีๆมาเล่าให้ฟังอีกเเล้วครับ บทความนี้ผมจะมาเเชร์วิธีการป้องกันน้ำเน่าเสียในบ่อเลี้ยงปลาของเรา ง่ายๆครับเพียงใช้ปูนขาวหว่านลงไปในปริมาณที่พอเหมาะอัตราส่่วนมาตรฐานก็คือ 25-30 กก./ปริมาตรบ่อขนาด 1 ไร่ นะครับ ปูนขาวทำหน้าที่อะไร? หลายคนอาจสงสัย      ปูนขาวจะช่วยปรับสภาพน้ำที่มีความเป็นกรดจากฝนตกหรือมีเศษซากที่เน่าเสียในหนองน้ำ ในสระน้ำให้มีความเป็นกลางหรือด่างนิดๆ ซึ่งเป็นสภาวะที่เหมาะในการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตทั้งที่มีขนาดเล็กและมีขนาดใหญ่ที่อยู่ในน้ำ ทำให้ปลาที่เราเลี้ยงสดใส ร่าเริง กินอาหารได้มาก ลดปัญหาน้ำเน่าเสียและช่วยลดความเป็นกรดของน้ำในบ่อเลี้ยงปลาของเราได้ จึงทำให้ปลาโตไวนั่นเองครับ ปูนขาว ปูนขาวคืออะไร? หลายคนอาจสงสัย ปูนขาว เป็นวัสดุที่ได้จากการเผาหินปูนด้วยกรรมวิธีที่มีความร้อนสูงเพื่อให้ได้เป็นปูนสุก เมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำก็จะได้เป็นผงปูนขาวที่ใช้ในทางการเกษตรที่มีชื่อว่า แคลเซียมไฮดรอกไซด์ นั่นเองครับ คุณสมบัติหลักๆของปูนขาวมี 4 อย่าง คือ 1. มีความเป็นด่างสูงกว่าวัสดุปูนทางการเกษตรทุกชนิด เช่น ปูนมาร์ล หรือปูนโดโ

แกลบดำหรือแกลบเผา ใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์กับพืชมากที่สุด ทนแล้ง โตไว ไ...

รูปภาพ
     สวัสดีครับมิตรสหายที่รักเกษตรทุกท่าน บทความดีๆในวันนี้จะมาพูดถึงเรื่อง แกลบ โดยเฉพาะแกลบดำกับการใช้ให้เกิดประโยชน์สสูงสุดต่อพืช แกลบดำ แกลบดำหรือแกลบเผา ทำมาจากแกลบดิบหรือวัสดุที่เหลือจากโรงสีข้าวหรือโรงงานชีวมวลที่ใช้แกลบเป็นแหล่งเชื้อเพลิง (ในกระบวนการสีข้าวแกลบหรือเปลือกหุ้มเมล็ดข้าวจะหลุดออกมาก่อนพร้อมธาตุอาหารบางส่วน) แกลบดำหรือแกลบดิบที่ผ่านกระบวนการเผาแล้วจะมีลักษณะเป็นผงสีเทาดำ หรือสีขาว สีเทาปนดำ ในทางการเกษตรแล้วถือว่าเป็นวัสดุที่มีประโยชน์อย่างมากมาย แกลบดิบจะมีซิลิก้าซึ่งจะให้ธาตุซิลิกอนสามารถตรึงทั้งออกซิเจนและไนโตรเจนจากอากาศมาไว้ในดินได้ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อพืชที่เราปลูกอย่างมากจึงทำให้พืชโตไว มีใบเขียวสด ไม่มีโรคแมลงมารบกวน หรือมีบ้างก็ไม่ส่งผลเสียต่อพืชเท่าไร แต่แกลบดิบควรหมักก่อนเพื่อให้เกิดการย่อยสลายหรือทำให้กลายเป็นแกลบเก่า ค่อยนำไปใช้จะได้ไม่ส่งผลเสียต่อพืช แกลบดำ คุณสมบัติของแกลบดำ  1. น้ำหนักเบา (นิยมนำมาเป็นวัสดุเพาะชำ) 2. ระบายอากาศได้ดี (ทำให้ดินโปร่ง ร่วนซุย ช่วยเพิ่มออกซิเจนในดิน)  3. มีรูพรุนสูงอุ้มน้ำและระบายน้ำได้ดี (ทำให้พืชทนแล้ง) 4. ปลวกไม่กิน

3 วิธีใช้ขี้เถ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปลอดสาร! พืชโตไว! ไม่มีโรค!

รูปภาพ
     สวัสดีมิตรสหายที่รักเกษตรทุกท่านบทความนี้มีเรื่องดีๆมาเล่าให้ฟังอีกแล้วครับ เป็นเรื่องขี้เถ้าถ่านจากเตาไฟเรานี่เองแต่ก่อนอื่นอยากให้ทุกท่านลองนึกภาพดูสถานที่ๆเคยจุดไฟหรือมีกองขี้เถ้าเก่าๆ หรือหลุมที่เคยเผาถ่าน ลองสังเกตุดูดีๆบริเวณนั้นจะมีหญ้าขึ้นสูงและเขียวงามผิดปกติกว่าบริเวณอื่นๆ เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะได้รับประโยชน์หรือธาตุอาหารดีๆจากขี้เถ้านั่นเอง แล้วขี้เถ้ามันมีประโยชน์อย่างไร? เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังแบบละเอียดครับ ขี้เถ้าถ่าน      ขี้เถ้าถ่านหรือขี้เถ้าแกลบเป็นวัตถุดิบที่ได้จากการเผาไหม้เศษไม้หรือเศษใบไม้รวมถึงอินทรีย์วัตถุอื่นๆ มีลักษณะเป็นสีเทาหรือสีขาวขุ่น ขี้เถ้าจะมีความเป็นด่างเหมือนวัสดุปูนที่ใช้ในทางการเกษตรเช่นปูนขาว หรือปูนโดโลไมท์ ในขี้เถ้าจะมีซิลิก้า คาร์บอน แคลเซียม และโพเทสเซียมในปริมาณเล็กน้อย ซิลิก้าคืออะไร? หลายคนอาจสงสัย อันที่จริงแล้วซิลิก้าไม่ได้จัดอยู่ในธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับพืชก็จริง แต่ซิลิก้ามีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชโดยเฉพาะทำให้ใบหนา ใบเขียวเข้ม แมลงศัตรูพืชเข้ามาทำลายได้ยาก ทำให้พืชมีความแข็งแรงนั่นแสดงว่าการที่เรานำขี้เถ้าแกลบหรือขี้เถ้าถ่าน

2 เคล็ดลับ! ปลูกกล้วยให้รอด! ปลอดโรค! และโตเร็ว ฉบับเข้าใจง่าย (อัพเดตล่...

รูปภาพ
     บทความนี้แนะนำ 2 เคล็ดลับง่ายๆในการปลูกกล้วยให้รอด ปลอดโรค และโตเร็ว ฉบับเข้าใจง่าย เป็นประสบการณ์ที่ผมเคยปลูกมาตั้งแต่เริ่มหันมาทำเกษตรก็นานกว่า 10 ปี แต่ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า กล้วยเป็นพืชอวบน้ำ เป็นพืชที่ให้ผลผลิตปีต่อปี ติดผลตามฤดูกาล ตั้งแต่เริ่มปลูกจะมีผลผลิตให้เก็บเกี่ยวในระยะปลูกประมาณ 8 เดือน สามารถปลูกได้ทุกสภาพดิน เป็นพืชทนแล้ง นิยมปลูกเป็นไม้พี่เลี้ยงของไม้ผลและไม้ยืนต้นชนิดต่างๆ เป็นพืชที่ชอบแสงแดดจัดหากปลูกในที่แสงน้อยจะยืดต้นสูงผลผลิตก็ลดน้อยตามไปด้วย นี่คือเรื่องของกล้วยโดยสังเขป การที่จะปลูกกล้วยให้รอด ปลอดโรค และโตไว จากประสปการณ์ที่ผมเคยปลูกมามี 2 อย่างหลักๆที่ต้องพิจรณา คือ 1. การเลือกต้นพันธุ์ 2. การเตรียมหลุมปลูก กล้วย 1. การเลือกต้นพันธุ์กล้วยหรือเลือกหน่อกล้วยที่จะนำมาปลูก มีข้อควรพิจารณา คือ 1.1. ควรเลือกหน่อกล้วยที่มีความสูง 1.5 - 2 เมตรขึ้นไป (ถ้าต้นเล็กเกินไปหน่อกล้วยจะมีรากน้อย เปอร์เซ็นต์รอดจะต่ำ) 1.2. หน่อกล้วยที่จะนำมาปลูกต้องมีใบกางออก ไม่มียอดม้วนหรือไม่ควรเลือกหน่อกล้วยที่มีใบอ่อนเพราะจะทำให้เปอร์เซ็นต์รอดต่ำ 1.3. การขุดขยายหน่อกล้วยก็ควรระ

ปลูกพริกแบบนี้ ติดผลดก! งามไว! เก็บผลผลิตได้ยาวนาน

รูปภาพ
     แชร์เคล็ดลับดีๆในการปลูกพริกให้ดก และงามไว แถมยังเก็บผลผลิตได้ยาวนาน เป็นการปลูกพริกแบบตัดยอดครับ       ที่ผมขยายปลูกในคลิปนี้เป็นการปลูกพริกจากต้นที่งอกแล้ว (ประมาณ 15-20 ซม.) สามารถทำได้ง่ายๆ เริ่มตั้งแต่การเตรียมหลุมปลูกด้วยการใช้จอบขุดหรือสับดินให้ร่วน(ไม่ต้องขุด) จากนั้นให้โรยด้วยเปลือกไข่บด + ขี้เถ้าจากเตาถ่านอย่างละ 1 กำมือ ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้วให้ขุดต้นพริกมาปลูกได้เลย ในการขุดขยายต้นพริกพยายามขุดให้ดินติดมามากที่สุด และที่สำคัญให้เด็ดยอดพริกออกประมาณ 1-2 ข้อมือ ปลูกและคลุมด้วยเศษหญ้าแห้งหรือเศษฟางแห้งเพื่อรักษาความชื้นดูแลรดน้ำตามปกติ เพียงไม่กี่เดือนพริกที่เราปลูกก็จะติดดอกออกผลอย่างรวดเร็ว แถมยังดกและเก็บได้นานอีกต่างหากครับ รับชมเพิ่มเติมได้ตามคลิปนี้เลยครับ

7 สาเหตุหลัก! ที่ทำให้ต้นไม้โตช้า แก้ไขตอนนี้ยังทันนะครับ

รูปภาพ
     สวัสดีมิตรสหายที่รักเกษตรทุกท่าน บทความดีๆในวันนี้จะมานำเสนอเรื่องที่หลายคนที่ทำเกษตรยังค้างคาใจว่า ทำไมปลูกพืชไปแล้ว ปลูกมาหลายปี ทำไมมันไม่โตสักที มันเป็นเพราะอะไร จากประสบการณ์ส่วนตัวผมสรุปมาให้ ดังนี้ครับ 1.น้ำไม่เพียงพอ ควรมีการวางระบบน้ำเป็นแบบมินิสปริงเกอร์ ระบบน้ำหยด หรือระบบสปริงเกอร์ โดยเฉพาะหน้าแล้ง หากพืชขาดน้ำจะชะงักการเจริญเติบโตเพราะน้ำเป็นปัจจัยสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช และที่สำคัญควรคลุมโคนต้นเอาไว้โดยเฉพาะในช่วงปลูกใหม่หรือในช่วงหน้าแล้งเพื่อรักษาความชื้น 2. ธาตุอาหารไม่เพียงพอ ควรใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยเคมีในทุกระยะการเจริญเติบโต เช่น ระยะปลูกใหม่ คือหลังปลูกประมาณ 1-2 เดือน ให้ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักบริเวณใต้ชายใบรอบโคนต้น อัตราส่วน ครึ่งกิโลกรัมต่อต้น ทุก15 วันและเพิ่มปริมาณขึ้นไปเรื่อยๆตามการเจริญเติบโตของต้นไม้ ระยะกำลังติดดอก ควรเน้นปุ๋ยสูตร ตัวหน้าต่ำตัวกลางตัวหลังสูง ส่วนระยะติดผลควรเน้นตัวหลังสูงและที่สำคัญในช่วงกำลังติดดอกออกผลควรเสริมด้วยแคลเซียม-โบรอน เพื่อคุณภาพผลผลิตที่ดี 3. ต้นโยก ทำให้รากขาด ควรใช้ไม้ปักค้ำยันไว้ เพื่อกันลมกันโยก

ดอกแค! สมุนไพรที่มีประโยชน์มากกว่าคำว่าผัก ที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้

รูปภาพ
     ต้นแค จัดเป็นพืชขนาดกลางสูงประมาณ 2 - 6 เมตร มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และมีการปลูกแพร่หลายในบ้านเรา       ต้นแคจัดอยู่ในพืชตระกูลถั่ว มีปมที่รากซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของแบคทีเรียที่มีชื่อว่า "ไรโซเบียม"(Rhizobium)  เป็นไม้เนื้ออ่อน เนื้อไม้สามารถนำมาเพาะเห็ดหูหนูได้ และยังเป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อราเห็ดที่มีชื่อว่า "ไมคอร์ไรซ่า"(Mycorrhiza) หรือเชื้อราเห็ดโดยเฉพาะเห็ดตับเต่านั่นเอง จะมีทั้งแคขาวแคแดง ทุกส่วนของต้นแคถือว่ามีสรรพคุณทางยาแถมยังเป็นแหล่งพลังงานชั้นดีเพราะในยอดอ่อนหรือดอกแคหรือแม้กระทั่งฝักอ่อนจะอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆเช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน แมกนีเซียม  วิตามิน บี 1 วิตามิน บี 2 วิตามิน บี 3 วิตามิน บี 9 และวิตามิน ซี เป็นต้น การนำยอดแคอ่อนหรือดอกแคมาปรุงเป็นอาหารนอกจากจะมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ แล้ว ยังมีสรรพคุณดีๆ หลักๆที่ผมสรุปมาให้มี 6 อย่างดังนี้ครับ 1. ช่วยถอนพิษไข้ แก้อาการปวดหัว แก้ปวดฟัน  2. ช่วยขับเสมหะ เป็นยาแก้หวัด ช่วยลดน้ำมูก 3. แก้โรคร้อนใน กินแล้วผ่อนคลายนอนหลับส

ดินทรายปรับปรุงอย่างไร? และปลูกอะไรได้บ้าง?

รูปภาพ
ดินทราย จะมีเม็ดดินที่ไม่เกาะตัวกันดี เป็นดินที่มีการระบายน้ำได้ดี หรือน้ำซึมผ่านได้ง่ายกว่าดินร่วนและดินเหนียว แถมยังมีประจุลบน้อยกว่าดินทั่วไป นั่นหมายถึงดินทรายจัดว่าเป็นดินที่มีธาตุอาหารน้อย หากจะปลูกพืชบนพื้นที่ดินทรายควรปลูกพืชที่ต้องการน้ำน้อย เช่น มันสำปะหลัง มะพร้าว ไผ่ หรือกล้วย และก่อนปลูกพืชควรเติมอินทรียวัตถุอย่างเช่นปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในปริมาณที่มากด้วย ก็จะช่วยให้พืชที่เราปลูกสามารถเจริญเติบโตได้ดีครับ.

รวม 3 วิธีปลูกกล้วยให้โตไว! ห่างไกลโรคกล้วยตายพราย

รูปภาพ
     สวัสดีมิตรสหายที่รักเกษตรทุกท่าน บทความนี้จะมาพูดถึงการปลูกกล้วยให้โตไว แถมยังห่างไกลโรคกล้วยตายพรายอีกต่างหาก ซึ่งเป็นวิธีที่ผมใช้มาหลายปีที่ทำเกษตร ในการปลูกกล้วยของผมจะใช้การปลูก 3 แบบ หรือ 3 วิธี และแน่นอนว่าเป็นวิธีการปลูกกล้วยที่สามารถทำได้ง่ายๆ มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากดังนี้ครับ วิธีที่ 1 ขุดหลุมและรองพื้นด้วยเปลือกไข่บด + ขี้เถ้าจากเตาถ่าน อย่างละ 1 กำมือ ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นก็เลือกขุดหน่อกล้วยมาปลูกตามปกติ (หน่อกล้วยควรสูงเกิน 1 เมตรขึ้นไป เพราะจะมีรากหาอาหารเองได้)  วิธีที่ 2 ขุดหลุมและรองพื้นด้วยเปลือกไข่บด + ขี้เถ้าจากเตาถ่าน อย่างละ 1 กำมือ ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นให้เลือกหน่อกล้วยที่มีขนาดความสูงมากกว่า 1.5 - 2 เมตร ทำการตัดต้นให้เหลือประมาณ 50 เซนติเมตร (วัดจากเหง้าขึ้นมา) เสร็จแล้วก็นำไปปลูกตามปกติ วิธีที่ 3 ขุดหลุมและรองพื้นด้วยเปลือกไข่บด + ขี้เถ้าจากเตาถ่าน อย่างละ 1 กำมือ ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นให้เลือกขุดหน่อกล้วยที่มีขนาดความสูงมากกว่า 1.5 - 2 เมตร เหมือนวิธีที่ 2 แต่วิธีนี้จะตัดเอาเฉพาะเหง้ากล้วยมาปลูก วิธีปลูกให้คว่ำเหง้ากล้วยลง หรือ

แชร์เคล็ดลับ! ปลูกมะพร้าวให้โตไว ฉบับเข้าใจง่ายในแบบฉบับของผมเอง (อัปเดตล่าสุดวันที่ 2/11/64)

รูปภาพ
     สวัสดีมิตรสหายที่รักเกษตรทุกท่าน สำหรับบทความดีๆในวันนี้จะมาบอกถึงเคล็ดลับดีๆในการปลูกมะพร้าวให้โตไวอย่างง่ายๆ มีเพียง 5 ขั้นตอนดังนี้ครับ 1. ขุดหลุมลึกประมาณ 30  x 30 เซนติเมตร ระปลูกห่างกันประมาณ 5 - 6 เมตร 2. รองพื้นหลุมด้วยเปลือกไข่บด 1 กำมือ + ขี้เถ้าจากเตาถ่าน 1 กำมือ + เกลือ ประมาณครึ่งกำมือ 3. ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันตามปกติ 4. นำมะพร้าวลงปลูกตามปกติ แต่ผมจะหันยอดมะพร้าวไปทางทิศตะวันออก และกลบดินเพียงครึ่งลูกก็พอ (ไม่ให้มิดทั้งผล)  5. คลุมด้วยขี้เลื่อย หรือเศษใบไม้แห้ง เศษหญ้าแห้งก็ได้ จากนั้นก็รดน้ำและดูแลตามปกติ เป็นอันจบครับ.

กล้วย! ประโยชน์ดีๆที่หลายคนไม่เคยได้รู้

รูปภาพ
     กล้วยเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วย โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นและมีความสำคัญต่อร่างกายของเราอย่างมาก ประโยชน์หลักๆของกล้วยก็คือ ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยบำรุงกำลัง ทำให้กระดูกแข็งแรง บำรุงสายตา อีกทั้งการรับประทานกล้วยยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย       สำหรับคนรักสุขภาพอยากหุ่นดีหุ่นสวยก็อย่าลืมหาต้นกล้วยมาปลูกติดสวนไว้ หรือหากล้วยติดบ้านไว้เป็นเมนูอาหารว่าง เพราะการกินกล้วยจะช่วยลดความอ้วนได้ แถมยังแก้อาการท้องผูกได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะครับ เพราะในยางกล้วยยังมีฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า จิบเบอเรลลิน (Gibberellin)ที่สามารถทำให้พืชโตไว ช่วยยืดขยายเซลล์ แถมยังช่วยในการเปลี่ยนเพศดอกของไม้ผลหรือไม้เถาบางชนิดได้อีกด้วย       การทำฮอร์โมนจิบเเบอเรลลินจากยางกล้วยมีวิธีง่ายๆคือ เพียงนำหัวปลีออกใหม่จากต้นกล้วยที่ยังไม่ออกผลมา 1หัว จะนำมาหั่น สับ หรือตำก็ได้ + น้ำมะพร้าว 1 ลูก + กากน้ำตาล 1 ก.ก. + น้ำ 3 ลิตร จากนั้นให้นำส่วนผสมทั้งหมดมาหมักรวมกัน ปิดฝาไม่ต้องสนิท ตั้งไว้ในที่ร่มประมาณ10 วัน สามารถนำไปฉีดพ่นพืชผัก ไม้ผล หรือไม้ยืนต้นได้เลยครับ.

พืชใบเหลือง! ผิดปกติแบบนี้เกิดจากอะไร? แก้ไขอย่างไร?

รูปภาพ
     อาการที่ผิดปกติที่เกิดกับต้นไม้หรือพืชที่เราปลูกอย่างหนึ่งก็คือ พืชเกิดอาการใบเหลือง ซึ่งสาเหตุหลักๆ มักเกิดจากระบบรากเริ่มเสียหาย รากพืชอ่อนแอ เพราะมีการเข้าทำลายของเชื้อราบางชนิด หรือพืชกำลังขาดธาตุอาหารบางอย่าง หรือมีธาตุอาหารบางอย่างเกินมาเนื่องจากสภาพดินที่มีค่า PH (กรด-ด่าง) ผันแปร เช่นดินปลูกของเรามีความเป็นกรดหรือมีความเป็นด่างสูงหรือต่ำเกินไป ทำให้ส่งผลเสียต่อพืชที่เราปลูกโดยตรง ผมจึงได้จัดทำคลิปนี้เพื่ออธิบายถึงสาเหตุและวิธีการแก้ไขแบบละเอียด ตามแบบฉบับของคนทำเกษตรอย่างง่ายๆ สไตล์ผมเองครับ.

ปลูกกล้วยให้งามไว แถมยังปลอดโรคตายพรายอีกต่างหาก (อัพเดต 29-10-2564)

รูปภาพ
      สวัสดีมิตรสหายที่รักเกษตรทุกท่านครับ สำหรับบทความดีๆในวันนี้ ผมจะมาพูดถึงเรื่องกล้วยๆ นั่นก็คือการปลูกกล้วยให้โตไวเเถมยังไม่มีโรคตายพราายอีกต่างหากเอาพอสังเขปง่ายๆสไตล์คนทำเกษตรบ้านๆก็ละกันนะครับ      เรื่อมตั้งเเต่การเตรียมหลุมปลูก ผมจะขุดลึกประมาณ 30 x 30 เซนติเมตร จากนั้นจะรองพื้นหลุมด้วยขี้เถ้าจากเตาถ่าน ประมาณ 2 กำมือต่อหลุม คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นก็ขุดหน่อกล้วยมาปลูกตามปกติ แต่มีเคล็ดลับอย่างหนึ่งก็คือในการขุดหน่อกล้วยผมจะเลือกหน่อกล้วยที่ไม่มีใบอ่อนคือต้องมีใบกาง (ยอดบนไม่ม้วน) สูงประมาณ 1.5 ถึง 2 เมตรขึ้นไป และที่สำคัญควรขุดให้ห่างเหง้า เพื่อป้องกันความเสียหาย ไม่ให้เกิดบาดเเผลบริเวณ เหง้ากล้วย เพื่อการเจริญเติบโตที่ดี พอปลูกเสร็จผมก็จะคลุมด้วยเศษหญ้าแห้งเศษใบไม้แห้งและรดน้ำตามปกติ       ขั้นตอนสุดท้ายผมก็จะตัดใบกล้วยทิ้งให้เหลือประมาณ 3 ใน 4 ของความยาวใบ เพื่อลดการคายน้ำและลดการสูญเสียธาตุอาหารที่ไม่จำเป็น คือให้กล้วยที่เราปลูกใหม่ทรงตัวอยู่ได้และสร้างรากให้แข็งแรงก่อนนั่นเอง เพียงเท่านี้กล้วยที่เราปลูกก็จะโตไว แถมยังไม่มีโรคตายพรายอีกต่างหาก ลองทำดูนะครับ.