ประสบการณ์ปลูกผักหวานป่า..อยากเล่าให้ฟัง

“ประสบการณ์ปลูกผักหวานป่า..อยากเล่าให้ฟัง”

Diary ส่วนตัวของผมเอง..Click Here

ผักหวานป่า
ผักหวานป่าที่เห็นในภาพนี้ปลูกเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2557 ที่ผ่านมานี้เอง และก่อนที่เพื่อนๆจะได้อ่านเรื่องราวต่อไปนี้ ผมต้องขอออกตัวไว้ก่อนนะครับว่า ผมไม่ใช่นักวิชาการ ผมไม่ได้เรียนจบเกษตร และผมก็ยังไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จทางด้านการทำเกษตร แต่ความรู้ทางด้านการเกษตรและทุกเรื่องราวของการทำเกษตรโดยเฉพาะการปลูกผักหวานป่าในวีดีโอที่ผมได้จัดทำออกมา ล้วนเป็นประสบการณ์จริงของผมเองไม่ได้ไป Copy ใครมา ถ้าผมไม่ได้ทำจริงๆ ผมคงไม่กล้านำมาบอกเล่าผ่านสื่อออนไลน์ให้ทุกคนได้ฟังหรอกนะครับ..เอาล่ะ..ทีนี้เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า..ขอย้อนอดีตไปเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ตอนนั้นผมก็เป็นพนักงานประจำอยู่บริษัทผลิตรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งย่านสมุทรปราการเหมือนเพื่อนๆนั่นแหละครับ ซึ่งอันที่จริงแล้ว ผมรักงานอิสระและรักการทำเกษตรมากกว่าการทำงานประจำ เพราะถูกปลูกฝังมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ทำอย่างเป็นจริงเป็นจังสักกะที ก่อนตัดสินใจลาออกจากงานประจำ 1 ปี ผมก็ได้ค้นคว้าหาความรู้ทางด้านการเกษตรหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องการปลูกผักหวานป่า เพราะเห็นว่าเป็นพืชเศรษฐกิจภายในประเทศที่น่าสนใจแถมราคาก็แพงเสียด้วย ก็ได้ค้นคว้าหาความรู้จากเอกสารวิชาการบ้าง ค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ต ดูวีดีโอคนที่เขาปลูกจริงๆบ้าง ก็ได้รับรู้ข้อมูลมาคร่าวๆก็คือ ผักหวานป่าช่วงที่ต้นยังเล็กเป็นพืชที่มีรากฝอยที่ละเอียดและไม่ต้องการการกระทบกระเทือน เป็นพืชที่ต้องการแสงแดดประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ และไม่ต้องการฮอร์โมนหรือปุ๋ยเคมีใดๆ คือถ้าเราจะปลูกผักหวานป่าก็ต้องปลูกใต้ต้นไม้อาศัยให้เป็นร่มเงาพอประมาณ หรือไม่ก็ทำแสลนหรือหาอะไรมาบังแสงเอาไว้..ประมาณนี้แหละครับ พอลาออกจากงานกลับมาอยู่บ้านได้สักพัก และพอถึงฤดูกาลที่มีเมล็ดผักหวานป่าออกมา ผมก็เริ่มลุย!..ทันทีครับ ปีแรกปลูกผักหวานป่า 150 ต้น วิธีการปลูกของผมก็คือ ปลูกคู่กับต้นมะรุม มะละกอ มะเขือ ถั่วมะแฮะ พริก และต้นแคบ้าน รดน้ำเช้า-เย็น ดูแลอย่างดี รัศมี 50 เซนติเมตรรอบโคนต้นไม่ให้มีวัชพืชขึ้นเด็ดขาด!..ดูแลยิ่งกว่าเด็กแรกเกิดซะอีก!..เจ้าพระคุณเอ๊ย!..ทำทุกอย่างสารพัดสาระเพ ผ่านไป 1 ปีครึ่ง ผักหวานป่าตายเกือบครึ่ง ไอ้ที่ไม่ตายก็ไมยอมโตสักกะที! สูงเพียงแค่ 1 ฝ่ามือ..ทำไมมันปลูกยากอย่างนี้? แต่ทุกวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอครับ..บังเอิญเหลือบไปเห็นต้นผักหวานป่า 3 ต้นที่ปลูกคู่กับต้นแคบ้าน มีใบเขียวอยู่ตลอด มีลำต้นสูงกว่าต้นอื่นหลายเท่า ทั้งที่ปลูกในสภาพดินผืนเดียวกัน แอบตั้งคำถามในใจว่า..”เพราะอะไร..ทำไม..มันเป็นอย่างนั้น?” ผมก็ค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมจนกระทั่งถึงบ้างอ้อ..เพราะได้อ่านข้อมูลจากคู่มือการเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน (ของกรมพัฒนาที่ดิน)..จะขอเฉลยให้ฟังเลยละกัน..ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่า ต้นแคเป็นพืชตระกูลถั่วมีไรโซเบียม (เรื่องของไรโซเบียมผมได้อธิบายไว้อย่างละเอียดในวีดีโอแนะนำของผมแล้ว) คือถ้าเราปลูกผักหวานป่าโดยมีต้นแคเป็นไม้พี่เลี้ยงจะมีอัตราการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว มีใบเขียวสดโดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยเคมี คือไม่เกินสองปีสามารถเก็บกินหรือขายได้เลย เมื่อสรุปได้อย่างนี้แล้ว ฤดูกาลต่อมาผมก็เริ่มทันที คือเพาะเมล็ดผักหวานป่าลงถุงเพาะชำแล้วหยอดเมล็ดแคบ้านตามลงไปทดลองปลูก 100 ต้น (ข้างบ้าน) ได้ผลเกินคาดครับ ภายในระยะเวลา 1 ปี 4 เดือนเศษๆ ผมก็เก็บยอดผักหวานมาต้มยำทำแกงได้แล้ว และที่สำคัญไม่ต้องไปดูแลอะไรมากมาย หมดหน้าฝนก็คลุมด้วยเศษฟาง อาทิตย์นึงรดน้ำที ไม่มีระบบน้ำหยด ไม่ใช้ระบบสปริงเกอร์ และด้วยความคับแค้นใจในช่วงแรกๆที่ปลูกผักหวานป่า ไม่มีใครให้ถาม (เพาะแถวบ้านเขาปลูกกันไม่ได้ คือปลูกได้แต่ไม่โต) ไม่มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ (เพราะช่วงนั้นเขากำลังเริ่มตั้งเสา True) ผมจึงได้รวบรวมข้อมูลจากประสบการณ์การปลูกผักหวานป่าทั้งหมดที่ผมได้ทำจริงๆ จัดทำเป็นวีดีโอรวบรวมไว้ในชาแนล You Tube ส่วนตัวของผมเอง ทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มนำเมล็ดผักหวานป่ามาล้างเยื่อหุ้มเมล็ดออก แล้วนำมาเพาะให้รากงอกออกมา นำลงถุงเพาะชำคู่กับเมล็ดแคบ้าน ตลอดถึงการปลูกลงดินแบบละเอียดยิบ แต่ท้ายสุดนี้ผมก็ไม่ได้บอกหรือการันตีว่าวิธีการของผมถูกต้อง เพราะวิธีการปลูกผักหวานป่าของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไป แต่สำหรับใครที่คิดจะปลูกผักหวานป่าอยากให้ลองชมวีดีโอแนะนำของผมให้จบก่อน เผื่อจะเป็นแนวทางในการตัดสินใจ หรือเป็นแนวทางในการต่อยอดวิธีการออกไปก็ไม่ว่ากัน ทุกขั้นตอนการปลูกผักหวานป่าอย่างละเอียดเข้าชมได้ที่นี่ครับ..Click Here

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปูนขาว/ปูนมาร์ล ทำหน้าที่อะไร?

เลือกฤดูกาลปลูกฟักทองให้ขายได้ราคาแพง

9 อุปกรณ์สำหรับวางระบบน้ำด้วยท่อ Pe ที่คนทำเกษตรควรรู้ไว้