3 วิธีใส่ปุ๋ยอย่างถูกต้อง! ที่หลายคนไม่เคยได้รู้ แชร์จากประสบการณ์ตรงครับ

3 วิธีใส่ปุ๋ยอย่างถูกต้อง ที่หลายคนไม่เคยได้รู้ บอกเล่าจากประสบการณ์ตรงครับ

     การใส่ปุ๋ยและการให้ปุ๋ยทางใบอย่างถูกต้อง จากประสบการณ์ที่ผมเคยทำเกษตรมาหลายปี หลักมีอยู่ 3 รูปแบบคือ

1. ละลายปุ๋ยกับน้ำ แล้วนำไปรดที่โคนต้น

นำปุ๋ยเคมีประมาณ 1 ช้อน ผสมกับน้ำประมาณ 10 ลิตร คนละลายให้เข้ากัน จากนั้นก็นำไปรดที่โคนต้น

**ข้อควรรู้**

ปุ๋ยเคมีสูตรต่างๆสำหรับให้ทางดิน ไม่ควรนำไปรดที่ใบพืช เพราะเป็นปุ๋ยที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ หากรดทางใบพืชจะไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควร หรือบางครั้งอาจทำให้ใบไหม้ได้ หากจะรดหรือฉีดพ่นทางใบควรใช้ปุ๋ยเกร็ด ปุ๋ยน้ำ ฮอร์โมนทางใบ หรือปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) หรือปุ๋ยแอมโมเนีย สูตรต่างๆ ซึ่งมีโมเลกุลขนาดเล็ก ซึ่งจะทำให้พืชสามารถดูดซับดูดซึมผ่านทางปากใบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ละลายปุ๋ยกับน้ำ แล้วนำไปฉีดพ่นที่ใบพืช

นำปุ๋ยสำหรับฉีดพ่นทางใบ เช่นปุ๋ยเกร็ด ฮอร์โมนพืชชนิดต่างๆ หรือปุ๋ยยูเรียสูตร 46-0-0 ผสมกับน้ำในอัตราส่วนตามที่ระบุไว้ แล้วนำไปฉีดพ่นพืชผัก หรือไม้ผลที่เราปลูกไว้ ด้วยการฉีดพ่นให้เปียกทั่วใบ โดยเฉพาะบริเวณใต้ใบพืช (เพราะส่วนใหญ่แล้วปากใบพืชจะอยู่บริเวณใต้ใบ)

3. โรยปุ๋ยทีละน้อย รอบโคนต้น (ตามอายุของพืช)

นำปุ๋ยเคมีประมาณ 1 ช้อนแกง โรยรอบโคนต้นพืชผัก หรือไม้ผลที่เราปลูกไว้ (ตามอายุและการเจริญเติบโตของพืช) จากนั้นก็เอาเศษหญ้าแห้งหรือฟางแห้งคลุมไว้เพื่อพรางแสง ลดการสูญเสีย จากนั้นก็รดน้ำตามเพื่อให้ปุ๋ยละลายอย่างช้าๆ ระวังอย่าให้น้ำไหลไปที่อื่น ต้องค่อยๆรดให้เปียกชื้น เพื่อชะลอการละลายตัวของปุ๋ย และเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำที่เรารดชะล้างปุ๋ยไปที่อื่นนั่นเองครับ

**เกร็ดความรู้เสริม**

- ควรใส่ปุ๋ยในช่วงที่ปากใบพืชเปิด คือช่วงที่มีแสงแดดไม่ร้อนเกินไป หรือช่วงที่มีแสงแดดอ่อนๆ เช่น ช่วงเวลาประมาณ 08.00 น.- 10.00 น.โดยประมาณ หรือช่วงบายที่มีแสงแดดอ่อนๆเช่น ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. – 18.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาที่ปากใบพืชเปิดกว้างมากที่สุด รากพืชมีการดูดซับดูดซึมได้ดี อีกทั้งยังทำให้กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง หรือกระบวนการสร้างอาหารของพืช มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเองครับ

- การใส่ปุ๋ยทางดินให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดและประหยัดสุด ควรนำปุ๋ยเคมี 1 ส่วนผสมรวมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักอีกประมาณ 5-10 ส่วน แล้วนำไปใส่รอบโคนต้น พืชก็จะได้ประโยชน์มากที่สุด ไม่เกิดการสูญเสีย ไม่ทำให้ดินเสีย และยังช่วยลดปัญหาดินกรดได้ด้วยนะครับ.


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เลือกฤดูกาลปลูกฟักทองให้ขายได้ราคาแพง

ปูนขาว/ปูนมาร์ล ทำหน้าที่อะไร?

9 อุปกรณ์สำหรับวางระบบน้ำด้วยท่อ Pe ที่คนทำเกษตรควรรู้ไว้