บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2014

เทคนิคปรับปรุงคุณภาพดิน

หลักการสังเกตดินเปรี้ยว หรือดินกรด หลักสำคัญในการทำเกษตรอันดับแรกๆเลย เราต้องรู้เรื่องของดินก่อน เพราะถือว่าเป็นปัจจัยหลักในการเจริญเติบโตของพืช เพราะดินที่มีค่าความเป็นกรด-ด่าง ( PH ) ที่วัดได้ต่ำกว่า 5.0 จัดว่าเป็นดินกรดด้อยคุณภาพ ประโยชน์ของธาตุอาหารหลักของพืชก็ลดลง หรือมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช ซึ่งดินลักษณะนี้มักมีธาตุอาหารของพืชอยู่ในระดับต่ำมาก โดยเฉพาะธาตุอาหารหลักๆ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส แต่กลับมีธาตุอาหารของพืชบางชนิด ที่มากเกินความจำเป็น ซึ่งจะส่งผลให้เป็นอันตรายต่อการเจริญเติบโตของพืชโดยตรง และผลผลิตก็ลดลง อีกทั้งผลผลิตที่ออกมายังด้อยคุณภาพอีกด้วย ธาตุอาหารที่ว่านี้ได้แก่ อลูมิเนียม เหล็ก และแมลงกานีส ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่พืชต้องการน้อยมาก และดินที่เป็นกรดจัดยังมีผลกระทบต่อกระบวนการย่อยสลายของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในดินอีกด้วย จะรู้ได้อย่างไรว่าดินปลูกของเราเป็นดินเปรี้ยว (ดินกรด) ถ้าอยากรู้ว่าดินปลูกของเราเป็นดินเปรี้ยวหรือ ดินกรด มีวิธีสังเกตุง่ายๆดังนี้ครับ - ให้สังเกตุน้ำบริเวณพื้นที่ดินกรดหรือดินเปรี้ยวจะใสผิดปกติ เมื่อชิมดูรสจะมีรสฝาดอมเปร

เพิ่มผลผลิตข้าวด้วยน้ำปัสสาวะ

รูปภาพ
น้ำปัสสาวะ ปุ๋ยไนโตรเจนชั้นดีสำหรับนาข้าว   น้ำปัสสาวะ เพิ่มผลผลิตข้าว ฟังดูแปลกๆอยู่นะครับ..อยู่ดีๆ ลุงจุ๊ หรือนายจุรีรัตน์ หวลถนอม เกษตรกรผู้ที่มากด้วยประสบการ์แห่ง ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด ก็ออกมาบอกว่า “น้ำปัสสาวะช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวได้”   แต่สำหรับ “ลุงจุ๊” คนนี้ เกษตรที่หันมาให้ความสนใจในการทำเกษตรโดยเฉพาะการปลูกข้าว ได้ทำการศึกษาเรียนรู้เรื่องดินตลอดถึงการปรับปรุงบำรุงดินด้วยวิธีต่างๆ จนได้เป็นหมอดินอาสา ทำให้มีความสนใจในเรื่องดินมากขึ้น และยังได้ปรับเปลี่ยนสภาพดินที่เลวร้ายไม่สามารถปลูกข้าวหรือทำเกษตรอย่างอื่นได้ แต่ด้วยความมุ่งมั่น และหมั่นสังเกตของลุงจุ๊เอง จึงทำให้ปรับเปลี่ยนดินเลวกลายเป็นดินที่มีความสมบูรณ์ได้ สามารถปลูกข้าวและได้ผลผลิตสูง โดยการปรับปรุงดินของลุงจุ๊ จะเน้นการใช้วัสดุจำพวกปูน เช่น ปูนมาร์ล จนทำให้สภาพดินดีขึ้นสามารถปลูกพืชได้หลากหลาย จากนั้นก็ได้ทำการปลูกข้าวและศึกษาหาความรู้เรื่องดินอย่างต่อเนื่อง และยังได้ค้นพบเรื่องการปลูกโสนแอฟริกันเป็นปุ๋ยพืชสด เพื่อเป็นการเพิ่มปริมาณอินทรีย์วัตถุในดิน และหมุนเวียนธาตุอาหารพืชคืนสู่ผืนดิน และยังมีเทคนิ

อาชีพเกษตร

รูปภาพ
วิธีเพาะถั่วงอกปลอดสารพิษ ถั่วงอกปลอดสารพิษ “อย่าไว้ใจถั่วงอกที่ขาวสด ที่เห็นวางขายตามท้องตลาดทั่วไป” เพราะผลวิเคราะห์จากนักวิชาการทางด้านโภชนาการได้ตรวจพบว่า ในถั่วงอกที่ดูสด ลำต้นอวบอ้วน หัวเล็กและขาวดังกล่าว มีสารเคมีตกค้างที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคอย่างมาก เพราะจะเกิดการสะสมของสารเคมีในร่างกาย หันมาทำถั่วงอกปลอดสารพิษเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคและเพื่อสุขภาพของตัวเราเองดีกว่าครับ..เริ่มจาก..เตรียมวัตถุดิบสำหรับเพาะ “ถั่วงอกปลอดสารพิษ” ดังนี้ - ถั่วเขียว 3 กิโลกรัม - ถังพลาสติกที่มีฝาปิด 4 ใบ - กระสอบป่าน 3 ใบ (เพาะได้ 3 ชั้น) - ตระแกรงพลาสติก - กะละมังพลาสติก - กระจาดพลาสติก วิธีเพาะ “ถั่วงอกปลอกสารพิษ” มีขั้นตอนดังนี้ 1. นำถั่วเขียวมาคัดเอาเมล็ดเล็กๆออก จากนั้นนำไปล้างให้สะอาด เสร็จแล้วนำไปแช่น้ำให้ท่วม (น้ำอุ่นธรรมดา 3 ส่วน ผสมกับน้ำร้อน 1 ส่วน) เพื่อให้เมล็ดถั่วเขียวขยายตัว แช่ทิ้งไว้ประมาณ 8 ชั่วโมง เสร็จแล้วนำมาล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง 2. เตรียมภาชนะสำหรับเพาะถั่วงอก จากนั้นวางกระสอบป่านลงบนภาชนะ แล้ววางตระแกรงพลาสติกไว้บนกระสอบป่าน จึงนำเมล็ดถ

การให้ปุ๋ยทางใบ

ประโยชน์ของการให้ปุ๋ยทางใบ ช่วงเช้าที่ผ่านมาก็เพิ่งฉีดพ่นปุ๋ยทางใบให้กับพืชผักที่ปลูกไว้รอบบริเวณบ้าน แต่สูตรปุ๋ยที่ผมใช้ไม่ได้ซื้อหาที่ไหนหรอก เป็นสูตรปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพที่ทำขึ้นเอง และผมก็ใช้มาเป็นประจำทุกปี เป็น “สูตรน้ำหมักชีวภาพ” ที่ทำจากหน่อกล้วยสด (โรงเรียนชาวนาโยนกเขาสอนมา) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “จุลินทรีย์หน่อกล้วย” สูตรเข้มข้น ผสมน้ำในอัตราส่วน 15 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร ได้ฉีดพ่นตั้งแต่เช้ามืดแล้ว เพราะหากสายเกินไปหรือมีแสงแดดจัด ก็จะไม่มีประโยชน์กับพืชเท่าที่ควร เพราะแสงแดดจะไปทำลายจุลินทรีย์กลุ่มสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในน้ำปุ๋ย ก็เล่นกันไปหลายถัง ทำเอาเหนื่อยเหมือนกัน! ว่างๆ ก็เลยเปิดคอมพิวเตอร์ ทำบันทึกไว้ซักหน่อย และในวันนี้ผมจะมาอธิบายให้ฟังถึงประโยชน์ของการให้ปุ๋ยทางใบ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีการให้ปุ๋ยพืช ที่เกษตรกรไทยเรานิยมทำกัน แต่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะการให้ปุ๋ยทางใบนั้นเป็นการกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชในช่วงวิกฤตได้ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่พืชต้องการธาตุอาหารในปริมาณที่สูง เช่น ช่วงที่พืชกำลังแตกกอ แตกใบ ช่วงกำลังออกดอก หรือกำลังแตกยอดอ่อน และที่สำคัญคือช่วงที่พืชกำลัง